นักการเมืองทยอยเข้าคุก
คงไม่มีใครสังเกตละสิว่า นักการเมือง ทั้ง สส. สว.,อดีต สส. ,นักการเมืองท้องถิ่น หลายสิบคนเดินสายเข้าคุก ทั้งหญิงชาย บางคนโดนสั่งประหารชีวิต พบว่านับสิบคนหลบหนีไปต่างประเทศ(คดีบุกการประชุมอาเซียน) โดนกันทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ตั้งแต่หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 (ภพโลกาวินาศ) เป็นต้นมา
การเมืองมันเดินไว ทราบว่าจะมีนักการเมืองอีกจำนวนมากในสภาปัจจุบัน และอดีตนักการเมือง จะต้องติดคุกติดตะรางอีก ทั้ง สส.และสว. ที่ต้องคดี ส่วนตัว คดีการเมือง และขาดคุณสมบัติ
สิ่งเหล่านี้คือการถูกตรวจสอบจากองค์กร อิสระ ที่มิได้ขึ้นตรงกับรัฐบาล แต่เป็นกระบวนการสร้างสมดุลแห่งอำนาจ ในเชิงการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข (ราชาธิปไตย)
ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จากอดีตสู่ปัจจุบัน 88 ปี ทำให้บทเรียนสำคัญของนักการเมือง นักโกงเมือง ที่เข้ามาแสวงหาอำนาจ ลงทุนซื้อเสียง หวังจะเข้าไปโกง ใช้การแย่งชิงอำนาจในการเลือกตั้ง เข่นฆ่าคู่แข่ง ใช้อำนาจในทางมิชอบ ปลุกระดม ก่อการร้าย แล้วเรียกร้องให้เปลี่ยนการปกครอง เพื่อให้พวกเขา จะได้มีอำนาจสูงสุดในการปกครอง (ล้มเจ้า) กำลังได้รับบทเรียนอันแสบเผ็ด
นักการเมือง พรรคการเมือง ที่กระทำความผิด แต่ยังกล้าปฎิเสธ ยังกล้าหลอกลวงประชาชน อ้างถูกกลั่นแกล้ง ปลุกระดมให้มาชุมนุม ก่อจราจลในพระนคร มินานคงจะได้รับบทเรียนราคาแพงอีก
สิ่งเหล่านี้ทางพุทธศาสนา เรียกว่าผลกรรม ที่เกิดจากการกระทำ ใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลกรรมตามนั้น มาดูกัน ใครจะเป็นคิวต่อไป
“ การเมืองคือการแสวงหาอำนาจ นักการเมืองคือนักแสวงหาอำนาจ อำนาจที่ยิ่งใหญ่คืออำนาจการปกครองประเทศ ประชาชนจึงต้องรู้จักนักการเมือง และพรรคการเมือง ให้ลึกซึ้ง ก่อนจะมอบอำนาจให้นักการเมือง “
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
28 กันยายน 2562