วันที่ 24 ก.พ. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปในเว็บไซต์ของ “พรรคอนาคตใหม่” ที่อุปโลกน์ประวัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่พบว่ามีการอ้างอิงประวัติเป็นถึงประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระหว่างปี 2551-2555 โดยข้อมูลดังกล่าวมีการเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่มาอย่างยาวนานกว่า 5 เดือน และยังเชื่อมโยงไปยังเวป์ wikipedia จนประชาชนออกมาท้วงติงและสื่อมวลชนนำมาเผยแพร่เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป จนกระทั่งมีการลบแก้ไขไปแล้วนั้น
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว จึงถือได้ว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว และเชื่อว่าอาจเป็นการจงใจหรือเจตนาที่จะหลอกลวงผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง อันเข้าข่ายข้อห้ามตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง 2561 ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งผู้ฝ่าฝืนอาจมีความผิดตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปีด้วย
กรณีดังกล่าว มีกูรูทั้งตัวจริงและตัวปลอมออกมาให้ความเห็นมากมาย แต่ไม่มีใครเก่งกล้าสามารถที่จะการันตีได้ว่าเหตุดังกล่าวนายธนาธรหรือพรรคอนาคตใหม่มีเจตนาหลอกลวงหรือไม่ อย่างไร เพราะต้องดูบริบทและองค์ประกอบหลายๆ เหตุปัจจัยมาประกอบ โดยผู้ที่จะต้องทำหน้าที่สืบสวน ไต่สวน รวมรวบพยานหลักฐานได้ตามกฎหมายดีที่สุดคือ กกต.เพื่อจักต้องดำเนินการทำสำนวนส่งฟ้องศาลเพื่อวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานทางคดีต่อไปตามอำนาจหน้าที่
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ดำเนินการสืบสวน ไต่สวน เพื่อดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป โดยจะเดินทางไปยัง กกต. ในวันจันทร์ที่ 25 ก.พ.2562 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ชั้น 1 ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.
นายศรีสุวรรณ ยังระบุด้วยว่า พร้อมกันนี้ จะยื่นให้ตรวจสอบกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อ 18 ก.พ. 2562 ด้วยข้อความในลักษณะใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือไม่ด้วยว่า “รัฐจากส่วนกลางจับมือกับสื่อมวลชนบางกลุ่มผลิตสื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนอีสานเป็นคนตลก ไม่มีความรู้…” อันมีความผิดตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง 2561 ด้วยเช่นกัน
Cr.thaipost
สำนักข่าววิหคนิวส์