เวลา 16.00 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” อดีตนายทหารชื่อดัง ในฐานะผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เดินทางมาที่ศูนย์ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 เลขที่ 903 หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมี พล.อ.ทำนุ โพธิ์งาม หรือ เสธ.นุ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ให้การต้อนรับ โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” ได้พบปะพูดคุยเกี่ยวผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นเกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน รวมทั้งความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เรื่องการทำมาหากิน โดยเฉพาะการเข้าไปเก็บหาของป่า
ดร.หิมาลัย เผยว่า จริงๆ แล้วตนเองไม่ได้ดูแลการเลือกตั้งในภาคนี้ แต่การที่มาหาเสธ.นุ ในวันนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์กันส่วนตัว เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน และเป็นนโยบายของผู้ใหญ่ที่ว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะปักธง ถามว่ารวมไทยสร้างชาติมั่นใจหรือไม่นั้น ตอบเลยว่าพรรครวมไทยสร้างชาติพยายามที่จะปักธงให้ได้ทุกเขต แต่สิ่งหนึ่งที่ตนพยายามบอกตลอดเวลาว่าจะได้ สส.เท่าไหร่นั้น สิ่งๆ นี้ตนขอเคารพสิทธิและเสียงของประชาชน เพราะจะไปตอบแทนประชาชนไม่ได้
สำหรับ เสธ.นุ นั้น คิดว่าเขาพยามยามอย่างเต็มที่อยู่แล้ว โดยส่วนตัว เสธ.นุ ท่านเป็นทหารที่ตั้งใจทำงาน อยู่ตรงไหนก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ การที่ประกาศตัวว่าจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ เชื่อว่าจะทำอย่างเต็มที่เช่นกัน เมื่อตั้งใจเต็มที่ แต่ปากกาอยู่ที่มือประชาชน เรามีหน้าที่เดินไปบอกแสดงความตั้งใจให้ประชาชนได้เห็น ทุกเขตของจังหวัดกาญจนบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติมีความตั้งใจที่จะรับใช้ประชาชนทุกเขต ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะให้โอกาสกับพรรคของเราหรือเปล่า
“ที่ผ่านมาอาจจะให้โอกาสพรรคอื่นไปบ้างแล้ว ลองดูว่าถ้าเอาไข่ไปวางในตะกร้าใบเดียว ถ้าตะกร้าตกแตกไข่มันจะสูญหมด ซึ่งอาจจะเอาไข่มาวางไว้ที่ตะกร้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นตะกร้าใบที่ 5 บ้างก็ได้ ซึ่งเราจะทะนุถนอมไข่ในตะกร้าเป็นอย่างดี ถามว่าลึกๆ แล้ว พรรครวมไทยสร้างตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะได้ ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขตหรือไม่นั้น แนวทางทำพรรคการเมืองมันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วว่าทุกพรรคอยากได้ ส.ส.ทุกเขต แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะให้ความเมตตากับพวกเราอย่างไร ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราตอบแทนประชาชนไม่ได้ แต่เรามีหน้าที่ที่จะนำเสนอสิ่งดีไปให้และพร้อมรับใช้ประชาชน
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า คิดอย่างไรกับคำว่า “ตกปลาในบ่อเพื่อน” เสธ.หิ ตอบว่าบอกได้เลยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ หลายคนเห็นว่าพรรคนี้เป็นอย่างไร มีอุดมการณ์อย่างไร อยากที่จะเข้ามาร่วมก็เป็นเรื่องธรรมดา คำว่าตกปลาในบ่อเพื่อน พรรคเพิ่งตั้งขึ้นมา แล้วเราจะไปตกที่ไหน เพียงแต่ว่าพรรคของเราเพิ่งตั้งมาใหม่และเราอยู่ที่ต่ำ เพราะพรรคของเราใครๆ ก็มองว่าต่ำอยู่แล้ว มันเป็นธรรมชาติเมื่อพรรคอยู่ที่ต่ำน้ำก็ไหลมารวมกัน บางทีปลามันไหลมาด้วย ซึ่งเราไม่ได้ไปตกที่บ่อใคร ปลาเขาอยากมาเขาก็มาเพราะน้ำที่นี่มันใส อยู่ได้อยู่เย็นสบายก็มาอยู่ก็แค่นั้นเอง
“ส.ส.ทุกคนมีวิจารณญาณของตัวเอง ทุกคนที่เป็น ส.ส.หรือทุกคนที่มาลงสมัคร ส.ส.เขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่พอ และหลายคนผมเชื่อว่าผู้ที่จะมาเป็น ส.ส.อยู่ในสภาไม่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่กำเนิดตั้งแต่เป็น ส.ส.จนถึงขั้นสุดท้ายในการเล่นการเมือง หลายคนเปลี่ยนพรรคไปพรรคมา เพราะฉะนั้นอย่าใช้คำพูดนี้อีกเลย เพราะว่าคำพูดนี้ผมเชื่อว่ามันใช้กับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ได้ เพราะทุกท่านมีวิจารญาณของตัวเอง ต้องให้เกียรติและกรุณาให้เกียรติความคิดของทุกคน ตรงนี้สำคัญกว่า”
สำหรับกระแสข่าวโจมตีเรื่องการไปเช่าพื้นที่บริษัทที่เชื่อมโยงกับ ส.ว.อุปกิต ทำที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้ว่าสุดท้ายจะยกฟ้องก็ตาม เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมในการที่จะหาสถานที่ตั้งพรรค หัวหน้าพรรคต้องไปหาด้วยตัวเองหรือ หัวหน้าพรรคเรามีตำแหน่งที่จะต้องทำงานให้รัฐบาล วันๆ หนึ่งเวลากินข้าวยังไม่มีเลย ดังนั้นเรื่องการจัดหาพื้นที่มันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะไปหา แค่ให้ข้อมูลกว้างๆ ว่าต้องการอยู่บริเวณใด
ซึ่งดูจากเจ้าหน้าที่ที่เสนอสถานที่ และเสนอสถานที่ขึ้นมา เมื่อต้องการได้ที่ทำการพรรค เมื่อมีคนให้เช่าที่ หรือให้เช่าตึกที่อยู่ในทำเลที่เราต้องการเช่า ราคาเท่าไหร่ก็เช่า มันก็แค่นั้น ซึ่งบางครั้งอาจจะมารู้ภายหลังได้ว่าเป็นของใคร แต่เมื่อมารู้เราได้ทำสัญญาเช่าไปก่อนแล้ว ซึ่งมันไม่ได้เสียหายอะไร ในวันที่เช่ามันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เรื่องมันมาเกิดภายหลัง เพราะไม่มีเจ้าของบ้านไหนที่จะมาบอกคนเช่าว่าตนเองโดนคดีมาก่อน ซึ่งทางหัวหน้าพรรคแค่ให้เจ้าหน้าที่ไปจัดมาเสนอ” ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” เผย