นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในที่ประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อหาทางออกให้กับประเทศว่า หลังจากตนได้อ่านญัตติของรัฐบาลแล้ว มีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากญัตตินี้ เป็นญัตติที่ไม่สร้างสรรค์ เนื้อหาสาระของญัตติ มีแนวโน้มที่จะสร้างความแตกแยกร้าวฉานในสังคมไทย ให้ขยายวงกว้างทั่วประเทศ มีแต่จะซ้ำเติมสถานการณ์ให้บานปลาย ไม่สามารถเป็นทางออกของสังคมไทยได้ แต่สมาชิกรัฐสภาก็ยังมีความตั้งใจ ที่จะใช้โอกาสการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ
นายสมพงษ์ยังกล่าวถึงการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย ควรจะได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง แต่ภาพที่สะท้อนออกมาต่อท่าทีการจัดการปัญหา คือทัศนคติที่คับแคบ ถือตนเป็นใหญ่ ไม่เห็นหัวประชาชนอยู่ในสายตา
ทั้งนี้ การแก้ไขวิกฤติที่เกิดขึ้นในประเทศ ต้องไม่ใช่การใช้กำลังประทุษร้าย หรือการสร้างเงื่อนไข การใช้กำลังสลายการชุมนุม ตั้งใจจะสร้างความไม่พอใจ ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะที่ยากต่อการควบคุม และหยิบฉวยสถานการณ์นั้นมาต่อยอดอำนาจของตนให้มากขึ้นอีก
ดังนั้น จึงเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาและหาข้อสรุปในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ดังนี้
1.ต้องพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างจริงจัง เปิดใจรับฟังแต่ละปัญหาที่นำเสนอ อย่างมีวิจารณญาณ
2. ต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว พิจารณา “ต้นเหตุสำคัญของปัญหา โดยเฉพาะ “รัฐธรรมนูญ” ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ
3. ต้องเร่งปลดเงื่อนไข ที่เป็นมูลเหตุของวิกฤติ เร่งปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมคุม
4.”นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก”
เพราะคือ อุปสรรคสำคัญ ที่เป็นภาระของประเทศ
ทั้งนี้ตนคาดหวังว่าสภาที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จะไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเตะถ่วงเวลา และฟอกความล้มเหลวให้แก่รัฐบาล