เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 ที่ห้องประชุมแสนสุข โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จ.ชลบุรี โครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน จัดเวที “ฝ่ายค้านรับฟังปัญหาทั่วไทยเพื่อประชาชน” ครั้งที่ 3
โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ประชาธิปไตยเสื่อม ประเทศชาติโทรม ประชาชนสิ้นหวัง ขาดสิทธิ หมดเสียง สิ้นเสรีภาพ รัฐธรรมนูญบิดเบี้ยว เสมือนร่างกายที่หัวใจพิการ” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่คนไทยต้องทวงคืนอำนาจ เพราะเราในฐานะเจ้าของอำนาจถูกปล้นอำนาจไปตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2557 และตลอด 8 ปียังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน วันนี้ถ้าเราไม่ทวงคืนอำนาจกลับมา อนาคตประเทศจะมืดมน
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญที่บัญญัติขึ้นมาใช้บังคับ เกิดภาวะวิกฤตไม่สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาประชาชน เอื้อแต่ประโยชน์ต่อผู้มีอำนาจ ถ้าเปรียบเป็นร่างกายมนุษย์รัฐธรรมนูญก็เหมือนหัวใจที่พิการ ถูกล่ามโซ่ให้ขาดโอกาสคิดพัฒนาประเทศ โดยถูกล่ามด้วยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สิ่งเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าประเทศกำลังเสื่อมโทรม ประชาธิปไตยเสื่อม และประชาชนสิ้นหวัง
ขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประชาธิปไตยเสื่อม หมายถึงระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนไม่สามารถกำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองได้ ระบบแบบนี้ทำให้ได้รัฐบาลที่ไม่สนใจจะตอบสนองประชาชน เพราะมีส.ว. 250 คนคอยบสนับสนุน โดยไม่ต้องง้อ ส.ส.หรือฟังเสียงประชาชน
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีหลายฝ่ายเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นนายกฯ สำรอง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรคสอง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองนั้น ไม่ว่าจะเป็นนายกฯปัจจุบันหรือลูกพี่ ก็ไม่หวั่นทั้งคู่ เพราะเป็นก็ยิ่งพัง ทำไมเรายังพูดว่า 2 คนนี้จะเป็นนายกฯอีก เพราะ 2 คนนี้ตั้งส.ว. 250 คนขึ้นมา รอให้ฝ่ายค้านชนะเยอะๆ ได้เสียงเกินส.ว. รองรับ 2 คนนี้ไม่ได้เป็นนายกฯ และจะหยุดสร้างความเสียหายให้ประเทศเสียที
ด้านน.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา เหมือนทศวรรษที่สูญหายของคนทั้งประเทศ เราไม่เห็นความพยายามประนีประนอมกับประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาขัดแย้งเลย การแก้ปัญหาทุกเรื่องเป็นไปแบบกระท่อนกระแท่น สถานการณ์แบบนี้รัฐบาลจึงไปต่อยากมาก เรากำลังเห็นระเบิดเวลาลูกใหม่ที่รอวันปะทุ คาดว่าในอนาคตจะปะทุอย่างรุนแรง
ส่วนปัญหาขัดแย้งภายในของรัฐบาล ทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ เกิดความง่อนแง่น วันนี้คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ ที่นั่งกอดเก้าอี้นั่งรากงอกมา 8 ปีแล้วกำลังโดดเดี่ยว รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไร้ซึ่งความศรัทธาจากประชาชนแล้ว ถึงเวลาคืนอำนาจให้ประชาชนได้แล้ว
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ถ้าจะทำให้ประเทศมีสันติสุข ต้องประกอบด้วย ประชาชนดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆที่ดี และต้องมีผู้นำที่ดี คือคนที่จะเป็นนายกฯที่ดีต้องมาจากการเลือกตั้ง ต้องเป็นผู้นำที่พูดแล้วต้องทำให้ได้มีสัจจะ ถ้าผู้นำไร้สัจจะถึงจะมีความสามารถแต่ก็ไร้ประโยชน์ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีสัจจะ
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชนที่คุ้มครองประชาชน แต่วันนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มี 5 รัฐ คือ 1.รัฐธรรมนูญ 2.รัฐอิสระ คือ องค์กรอิสระที่มีอำนาจมากกว่าส.ส. 3.รัฐประหารเงียบ คือ มีส.ว. 250 คน ที่มีมีอำนาจเลือกนายกฯ เท่านั้นยังไม่พอยังมียุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ซึ่งอยู่ในอุ้งมือของส.ว. ซึ่งเขาไม่มีพื้นที่ให้ประชาชนคนรุ่นใหม่ และพรรคใดทั้งนั้น
ส.ว.ครั้งนี้เดินพาเหรดกันเข้ามาเลย เพราะเขาไม่ไว้ใจประชาชน ในความหมายของพล.อ.ประยุทธ์ มองเสียงประชาชนว่าไม่มีเสียง เป็นเสียงที่ไร้ค้า เขาจึงตั้งส.ว.ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่เราบอกว่าประชาธิปไตยเสื่อมนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ประเทศไทยไม่โทรม เพราะเรามีความอุดมสมบูรณ์ และแรงงานยังมีความหวัง แต่สิ่งที่โทรมสิ่งที่เสื่อม คือเรามีผู้นำโทรม เสื่อม และไร้สัจจะ
ด้านนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไม่เคยทำตามนโยบายที่ตนเองได้หาเสียงไว้ พอมิลลิมีชื่อเสียงก็รีบโหน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยเอาผิดเขาต่างๆนานา ทั้งนี้ นายกฯเคยรู้หรือไม่ว่าซอร์ฟเพาเวอร์คืออะไร ไม่ใช่แค่จะมาเกาะโหนกระแส นี่คือบุคลิกของผู้นำเราที่ไม่เน้นทำ แต่เน้นเกาะกระแส ยืนยันว่าทหารมาเป็นรัฐบาลไม่ได้ ต้องให้คนที่เป็นนักบริหารเข้ามาบริหารประเทศ โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ ประเทศจึงจะไปได้ ไม่ใช่เอาแต่ซื้ออาวุธยุธโธปกรณ์ หากรัฐบาลนี้ยังเป็นรัฐบาลอยู่ต่อไป ประเทศไทยพังแน่นอน
ขณะที่นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า เรามีผู้นำขาดวิสัยทัศน์ความรู้ความสามารถ เชื่อว่าไม่เกินเดือน มิ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะลาออก นี่คือข่าววงใน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ข่มขืนใจพวกเรามานาน เรายังจะอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อหรือออกไป