นายกรัฐมนตรี ขอบคุณมาเลย์ อำนวยความสะดวกพูดคุยสันติสุขแก้ชายแดนใต้ รอจัดเซฟตีโซน ขอมาเลเซียสนับสนุนสินค้าทางการเกษตรของไทย ร่วมแก้ราคายาง
Inn – พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลัง ดาโต๊ะ สรี ฮิซัม มูดิน บิน ตุน ฮุสเซน (Dato’ Seri Hishammuddin Bin Tun Hussein) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียดำเนินมาอย่างใกล้ชิดและแน่นแฟ้น มีการแลกเปลี่ยน การเยือนระหว่างผู้นำทั้งในระดับรัฐบาลและกองทัพอย่างต่อเนื่อง สำหรับการบริหารจัดการชายแดนไทย-มาเลเซียนั้น ทั้งสองฝ่ายมีกลไกความร่วมมือภายใต้คณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมระหว่างไทย–มาเลเซีย ซึ่งได้มีการหารือกันเรื่องการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจเรื่องรั้วเดี่ยวบนเส้นเขตแดนไทย–มาเลเซีย โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความประสงค์ให้ไทยและมาเลเซียกระชับความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์มากกว่าการเป็นคู่แข่งขัน เพื่อผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันทั้งมากขึ้น พร้อมขอให้มาเลเซียสนับสนุนสินค้าทางการเกษตรของไทย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคายางพาราไม่ให้ตกต่ำ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นด้านความมั่นคง โดยเห็นว่าปัจจุบันประเด็นความมั่นคงมีความซับซ้อน จะต้องคำนึงถึงทุกมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ Cyber Security และ Financial Security อย่างไรก็ตามต้องไม่ละเลยเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ และการก่อการร้าย ทั้งสองฝ่ายพร้อมกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางสื่อออนไลน์ ที่ปัจจุบันมีการลงข้อมูลข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้เป็นปัญหาสังคมและความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้มีการเปิดฮอตไลน์ (Hotline) เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารโดยตรง สำหรับเจ้าหน้าที่ในทุกระดับที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง สำหรับปัญหาโรฮีนจานั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าประเทศใดประเทศหนึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาโดยลำพัง แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากนานาประเทศ ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน ให้ชาวโรฮีนจามีคุณภาพชีวิตที่ดี จะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ทำให้ปัญหาโรฮีนจาลดลงได้
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแสดงความชื่นชมรัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยสันติวิธี และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการพูดคุยอยู่ในช่วงของการสร้างความไว้เนื้อเชื้อใจระหว่างคณะพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐซึ่งต้องอาศัยเวลา โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือขั้นตอนการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) พร้อมแสดงความขอบคุณมาเลเซียที่มีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ด้านการอำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหวังจะได้รับความร่วมมือดังกล่าวจากฝ่ายมาเลเซียต่อไป
สำนักข่าววิหคนิวส์