พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการของดีโอทอปประจำท้องถิ่น และโครงการ 9101 โครงการในพระราชดำริ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมทำขนมลา กับชาวบ้าน ก่อนจะร่วมถ่ายรูปกับผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ และได้ร่วมประชุมการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และการเตรียมแผนทั้งป้องกัน เตือนภัย และอพยพช่วยเหลือ
นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยผู้บริหารส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
รับฟังภาพรวมสถานการณ์และแนวทางการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงรับทราบปัญหา อุปสรรคการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งภาคใต้ได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นทะเลจีนใต้ตอนล่าง ส่งผลให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่คาดว่าปริมาณน้ำฝนจะลดลงตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. เป็นต้นไป และจะได้รับผลกระทบอีกครั้งในวันที่ 8 – 10 พ.ย. โดยได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นทีเสี่ยงเฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และขอให้ติดตามการประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
โดย นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อมาตรวจเยี่ยมติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมให้กำลังใจชาวบ้าน รวมถึงให้กำลังใจข้าราชการทุกคนที่ร่วมมือกันตั้งใจทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และขอให้ประชาชนมีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ พร้อมย้ำด้วยว่าแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่ดีคือการเตรียมข้อมูล เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงมีความห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน และทรงติดตามทุกปัญหาของราษฎร นอกจากนี้ ขอให้ส่วนราชการน้อมนำแนวทางพระราชทานของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาปรับประยุกต์แก้ไขปัญหาตลอดจน สร้างเครือข่ายให้เข้มแข็งตั้งแต่เกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ รวมถึงสร้างฐานข้อมูลให้เป็นระบบสามารถเรียกดูข้อมูลได้ทันที
ทั้งนี้
นายกฯ ย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญในเรื่องการติดต่อสื่อสาร และเฝ้าติดตามโดยเฉพาะสื่อออนไลน์และโซเซียลมีเดีย หากเกิดการบิดเบือนข้อมูลและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องรีบแก้ไข และสร้างความเข้าใจ ไม่ปล่อยให้ปัญหาขยายวงกว้าง จนไม่สามารถควบคุมได้
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เรื่องการเมืองอย่ามาถามตนเองมากนัก โดยเฉพาะเรื่องปลดล็อคพรรคการเมือง ส่วนตัวรู้ข้อกฎหมาย เพราะศึกษามาแต่ไม่ได้ไปสั่งมา อย่างไรก็ทำตามจะกี่วันก็ต้องหามาตราการผ่อนผันให้ได้ แต่เมื่อผ่อนผันไปแล้วอย่าทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งคนที่รับผิดชอบก็ต้องเป็นตนเอง ขณะเดียวกัน นักการเมือง และพรรคการเมือง ส่วนตัวไม่ได้อยู่กลุ่มใครแต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วต้องเป็นบทเรียนทั้งเหตุการณ์น้ำท่วม ปี 2554 และเหตุการณ์ปี 2559
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สำหรับเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี ขอให้ใจเย็นๆ เป็นคนปรับอยู่แล้วไม่ต้องกลัวใคร ศึกษางานทุกกระทรวงและให้แนวทางมอบนโยบายไปทั้งหมดแล้ว ดังนั้น จะพูดในวันนี้ไม่ได้ เพราะทุกอย่างได้วางแผนไว้แล้ว ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจผู้ว่าฯ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน อย่าไปกังวลเรื่องอื่นขอให้เอาประชาชนไว้ก่อน โดยเฉพาะเรื่องการเมืองเอาไว้ทีหลัง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวจะไปร่วมประเพณีลอยกระทงที่กองทัพอากาศ โดยจะลอยกระทงให้เป็นศิริมงคลกับชีวิตเพื่อขจัดสิ่งไม่ดีออกไป ให้สิ่งดีๆ เข้ามา ซึ่งหมอดูหลายคนทำนายว่าปลายปีจะดีขึ้น คนไม่ดีก็จะหายไป จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะได้เดินทางวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อสักการะพระบรมธาตุ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
สำนักข่าววิหคนิวส์