พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ประยุทธ์ 5 ว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่ได้คำนึงถึงสัดส่วนทหารและครั้งนี้มีคนใหม่เข้ามาบ้างเล็กน้อย แต่ในส่วนของทหารมีออกมากกว่าเข้า พร้อมยอมรับว่าการปรับคณะรัฐมนตรีไม่สามารถทำให้ถูกใจได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะอาจมีทั้งพอใจบ้างและไม่พอใจบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะให้ทำดีที่สุด พร้อมยอมรับว่าตนเองมีความรับผิดชอบมาตั้งแต่เข้ามาในวันที่ 22 พ.ค. 2557 แล้ว
ตรงประเด็น – นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ว่า ขณะนี้กำลังคิดอยู่ คิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งต้องดูความพร้อมและกฎหมาย ขณะนี้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่ และกฎหมายท้องถิ่นยังไม่แล้วเสร็จ หากพร้อมเมื่อใดก็คงเลือก ส่วนตัวขอไม่อ้างเรื่องความสงบเรียบร้อย เพราะหากอ้างไปก็จะโดนอีก ต้องถามว่า ประชาชนพร้อมหรือไม่
ส่วนข่าวลือความขัดแย้งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นการดิสเครดิตหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า มีขบวนการดิสเครดิตส่วนหนึ่ง แต่ต้องไปดูว่าเรื่องการดิสเครดิตจริงหรือไม่จริง ต้องแยกแยะให้ออกขณะที่เรื่องการดำเนินงานโครงการต่างๆ กว่าจะผ่านมาถึงนายกรัฐมนตรีต้องดูว่าผ่านอะไรมาบ้าง มีเป็นหลายล้านโครงการ ส่วนตัวไม่ได้โทษทั้งหมดแต่ต้องไปดูว่า มีความสุจริตและเป็นธรรมหรือไม่ วันนี้ก็มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาทั้งหมดแล้ว ทั้งหมดอยู่ที่คนบังคับใช้กฎหมาย สังคมต้องเรียนรู้ว่าจะช่วยกันใช้กฎหมายอย่างไร ไม่ใช่ให้รัฐไปบังคับใช้อย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้ง ทุกอย่างไปกันไม่ได้ทั้งหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนในพื้นที่และนักเรียนอาชีวะหลังรับฟังการบรรยายสรุปการจัดการศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ และการจัดการศึกษาในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ว่าขอโทษที่มาพบกับทุกคนช้า เพราะใช้เวลาพูดคุยกับคณะทำงานว่าวันนี้จะเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศอย่างไร พร้อมแนะนำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า วันนี้อยากให้พบกับ พล.อ.ประวิตร ที่ดูแลด้านความมั่นคงและขับเคลื่อนงานกว่า 20 ด้านแต่ยิ่งขับเคลื่อนไป แรงต้านยิ่งมีมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่นายกน้อยเหมือนที่ใครกล่าวหาแต่นายกรัฐมนตรีมีคนเดียว ซึ่งแค่คนเดียวก็แย่พออยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีคนระบุ วันนี้นายกรัฐมนตรีเรียกปรับ คณะรัฐมนตรี หากปรับออกมาแล้วไม่ดี นายกรัฐมนตรีก็ต้องรับผิดชอบ จึงต้องสร้างความเข้าใจกันใหม่และขอให้ทุกคนปฏิรูปตนเอง เพราะวันนี้ประเทศต้องการการปฏิรูปในทุกด้าน แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจซึ่งรัฐบาลไว้วางใจประชาชน ดังนั้น ประชาชนต้องไว้วางใจรัฐบาลด้วย วันนี้ส่วนตัวมาด้วยหัวใจและให้ใจกับทุกคนดังนั้นทุกคนต้องให้ใจกับตนเองด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการให้ประชาชนร่วมตอบ 6 คำถามว่า ย้ำว่าถามเพื่อให้ประชาชนตอบ ไม่ได้ถามนักการเมือง หากไม่ชอบตนเองก็ขอให้เขียนมา และไม่ได้ต้องการคะแนนเสียง ไม่ต้องการโพลหรือผลโหวตใดๆ ทั้งสิ้น แต่ต้องการฟังเสียงประชาชน และอย่าหาว่าส่วนตัวยื้อการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งเป็นเรื่องของประชาชน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนเฝ้าระวังด้านความมั่นคง การบิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน ที่มีจำนวนมากในโซเชียมีเดีย หากส่วนตัวใช้อำนาจจะโดนโจมตีเหมือนกรณีซิงเกิลเกตเวย์ ดังนั้นขอทุกคนปกป้องและอย่าโพสต์ตาม และยืนยันไม่ได้เป็นการปิดกั้นทางการเมืองคิดต่างได้แต่ต้องช่วยกันแก้ไข นอกจากนี้เฮทสปีชถือเป็นเรื่องอันตราย ที่ข่าวของคนๆ เดียวหรือคนไม่กี่คนทำให้ปั่นป่วนกันทั้งประเทศ ทำให้เกิดความเกลียดชังจึงต้องทำให้กฎหมายมีผลสัมฤทธิ์ให้ได้
สำนักข่าววิหคนิวส์