นายกรัฐมนตรี ยัน เลือกตั้งเป็นอำนาจของประชาชน ขณะระบอบประชาธิปไตยต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้รัฐบาล ยืนยันให้สอบทุจริตหากผิดพร้อมรับโทษ ขอกลุ่มเคลื่อนไหวอย่าละเมิดกฎหมาย
Inn – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางถึงสหกรณ์โคนมกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยสวมหมวกคาวบอยเยี่ยมชมศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ ก่อนที่จะพูดคุยกับเด็กนักเรียนที่มารอต้อนรับว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ซึ่งมีเด็กที่อยากเป็นหมอ พยาบาล ช่าง นักวิทยาศาสตร์ และทหาร ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นทหารไม่ร่ำรวย ต้องเสียสละทำเพื่อชาติ ซึ่งตนเองทำเพื่อเด็กทุกคน และต้องเดินหน้าทำเพื่อชาติ
จากนั้นจึงได้ทักทายผู้นำชุมชน ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกล่าวว่า ทุกคนถือเป็นส่วนหนึ่งของกลไกระบอบประชาธิปไตย จึงต้องมองอนาคตของประเทศอย่าให้กลับเป็นแบบเดิมทุกอย่าง เพราะเสียเวลา และยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำเพื่อใครและอย่าไปฟังคนอื่นที่พูดบิดเบือน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นสักขีพยานในการมอบอุปกรณ์การเกษตรให้กับตัวแทนเกษตรกรจังหวัดนครปฐม และได้กล่าวกับสมาชิกสหกรณ์ฯ และประชาชนที่มาต้อนรับตอนหนึ่งว่า ส่วนตัวเดินทางมาครั้งนี้มาหลายมิติ โดยเฉพาะโครงการไทยนิยมในวันนี้ที่จะเดินหน้าทั้งประเทศ พร้อมย้ำวันนี้ไม่ได้มาการเมือง แต่มาแก้ปัญหาการบ้านที่ประชาชนมอบให้แก่กัน และเชื่อมั่นว่าจะได้ข้อมูลที่แท้จริงจากประชาชน เพราะการทำงานต้องมีหลายข้อมูลไม่ได้รอเพียงการรายงานจากหน่วยงานเท่านั้น มีการขึ้นทะเบียน 11 ล้านคน
แต่เชื่อว่ามีมากกว่านี้ แต่ไม่มีใครอยากลงทะเบียนเพราะกลัวว่าจะต้องโดนภาษี ขณะเดียวกัน ต้องสร้างความเท่าเทียมโดยเฉพาะกฎหมาย ซึ่งกฎหมายการชุมนุมและคำสั่ง คสช.เป็นคนละเรื่องกัน แต่หลายคนบอกว่าเดือดร้อนจากคำสั่ง คสช. ขอให้ยกเลิก แต่ส่วนตัวขอถามว่าใครเดือดร้อนบ้าง เพราะเดือดร้อนกันไม่กี่คนและมีเจตนาบริสุทธิ์หรือไม่ จึงขอให้ไปดูกฎหมายที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ที่มีหลายฉบับ
ขณะที่ พรบ.ชุมนุมสาธารณะ ประชาชนย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น และแสดงออก ไม่ใช่จะมาประท้วงแล้วยิงกันไปมา เพราะกฎหมายบอกว่าต้องขออนุญาตก่อน และต้องไม่กีดขวางจราจรและเกิดอันตรายกับผู้อื่น อย่าไปบอกว่ารัฐบาลต้องต้องยกเลิกคำสั่งให้ เพราะการชุมนุมก็ละเมิดคนอื่นไม่ได้
สำนักข่าววิหคนิวส์