ความเป็น ความตาย ของประเทศ
“บิ๊กตู่”วอนสื่อ ร่วมมือ
ลดความขัดแย้ง
ทำให้เกิดความสงบ
ชี้ ความเป็นความตายของประเทศ
แนะสื่อ เอาข้อเท็จจริง มาบอก รัฐทำอะไรไปบ้างแล้ว
ผมอยากให้มีคอลัมน์เหล่านี้ มากยิ่งขึ้น
ชี้โลกยุคใหม่ ไม่อ่านอะไรยาวๆ
อ่านหนังสือ 3 บรรทัด
อ่านโซเชียลมีเดีย 3 บรรทัด
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดงาน “ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ” (Thailand Education Eco-System) และการแสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนการศึกษาไทย
พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าเคร่งเครียด และทันทีทีเข้ามายังห้องห้อง Auditorium ซึ่งเป็นสถานที่ในการแสดงวิสัยทัศน์และไม่เห็นกลุ่มสื่อมวลชน เนื่องจากสถานที่ค่อนข้างคับแคบ เจ้าหน้าที่ได้จัดสถานที่ให้ฟังอยู่ด้านนอกห้องประชุม
พล.อ.ประยุทธ์ จึงให้เจ้าหน้าที่มาเชิญสื่อมวลชนให้เข้าไปฟังในห้อง
โดยกล่าวว่า “ สื่อมวลชนเข้ามาฟังเลยหรือไม่. ถ้าไม่เข้ามาก็จะไม่พูดไม่ให้สัมภาษณ์เพราะเรื่องนี้เป็น”ความเป็นความตายของประเทศ”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อมวลชนวันนี้ถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะสร้างการรับรู้ให้กับสังคมอย่างไร ถ้าเอาแต่การแพร่ข่าวอย่างเดียว ทางนั้นว่าอย่างนี้ ทางนี้ว่าอย่างนั้น ความขัดแย้งจะเกิดอย่างนี้ไปตลอดเวลา
ฉะนั้น ทำอย่างไรจะให้เกิดความสงบให้ได้ มีเสถียรภาพรัฐบาลให้ได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่หรือไม่อยู่ ต้องรู้ว่าจะเกิดอะไรตามมาในขณะนี้ ก็สุดแล้วแต่
ดังนั้น สื่อมวลชนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเผยแพร่ความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจสังคมในสิ่งที่ดีๆ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ถ้าจะเสนอข่าวความขัดแย้งอะไร ก็สุดแล้วแต่สื่อ แต่ต้องเสนอสิ่งดีๆ ที่มันเกิดขึ้นด้วย
บางสื่อ บางฉบับ บางคอลัมน์ เอาข้อเท็จจริงมาปรากฏว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทำอะไรไปบ้างแล้ว ผมอยากให้มีคอลัมน์เหล่านี้มากยิ่งขึ้น
วันนี้อยากจะบอก คนเขาก็ไม่อยากอ่านเหมือนกัน เพราะเขาบอกความขัดแย้งมันสูง ก็เลยเข้าไปในโซเชียลมีเดีย ก็ไปเจอทางโน้น อีกทาง ตรงนี้จะทำอย่างไรกับเรื่องเหล่านี้ ผมบังคับใครไม่ได้
บางทีพูดหลักการคนไม่เข้าใจ ซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่าทุกคนไม่ชอบอ่านหนังสือยาวๆ ไม่ชอบฟังอะไรนานๆ สิ่งเหล่านี้เป็นโลกยุคใหม่ อ่านหนังสือ 3 บรรทัด และอ่านโซเชียลมีเดีย 3 บรรทัด
แต่วิพากษ์วิจารณ์กันได้เยอะ ใส่ไปในโซเชียลมีเดีย ฝ่ายรัฐลองเปิดดูบ้าง ข้อมูลที่ใส่ไปไม่เห็นมีใครอ่าน มีคนแชร์นิดเดียว ฉะนั้น ต้องช่วยกันพูดและทำความเข้าใจ
ตรงนั้นเลยได้หรือไม่
นายกฯกล่าวว่า วันนี้ผมก็พูดไปตามเอกสารที่ท่านให้มาบ้างแล้ว ฉะนั้นสื่อเอาไปเผยแพร่ด้วย
เมื่อกี้ก็น้อยใจอยู่เหมือนกัน ถ้าสื่อไม่เข้ามาฟังมีเรื่องแน่ เชิญเข้ามาแล้วไม่มาแล้ว ไปรอถามการเมืองข้างนอก แล้วได้อะไรขึ้นมาหรือไม่
การศึกษาจะดีขึ้นหรือไม่แต่ต้น ไปก้าวล่วงทำไม่ได้อยู่แล้วในเมื่อท่านเป็นฐานันดรที่4 ก็เป็นให้ได้แล้วกัน นักข่าวดีหรือไม่ดี ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ แต่ท่านต้องสร้างแรงศรัทธาตรงนี้ให้ได้ทุกคน
โดยเฉพาะข้าราชการต้องเป็นสะพานให้ประชาชนเหยียบย่ำข้ามแม่น้ำไปข้างหน้าเพื่อนำพาประชาชนไปสู่จุดมุ่งหมายที่เราต้องการ โดยผ่านอุปสรรคมากมาย นั้นคือความภูมิใจของเรา
เมื่อเราตายไปจะได้มีคนชื่นชม ตอนที่อยู่ ก็ไม่ค่อยมีคนชื่นชมอยู่แล้ว แต่ลูกหลานเราจะปลื้มใจ ผมพูดมากก็ไม่ได้พูดน้อยก็ไม่ดี แต่ผมพยายามพูดไม่สร้างความขัดแย้ง เพราะมันขัดแย้งกันอยู่แล้ว
รัฐบาลผมอยู่ได้โดยไม่มีการทุจริต เพราะนายกฯ เป็นอย่างนั้นอยู่ ตนไม่เคยมีการทุจริตกับใครทั้งสิ้น อยู่มา 5 ปีพูดได้ 100% ซึ่งเป็นเรื่องของการตรวจสอบ ทุกคนก็ต้องระวังของท่านด้วย ไม่ใช่ผมไม่ไว้ใจ ไม่มีก็แล้วไป
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายทนายกฯ ได้ถามว่ามีอะไรจะถามหรือไม่ จะไม่ตอบข้างนอกเข้ามาให้ทุกคนได้เห็นว่าท่านถามกันยังไง “ถามสิ ไม่แน่จริงนี้หว่า”
เวลาคุณถาม ผมเอาคำตอบคุณ เอาคำตอบของผมไปออกอย่างเดียว แต่ไม่เอาคำถามของคุณไปออก แปลกดีเหมือนกัน