ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #นำชาติสู้รู้รักสามัคคี

#นำชาติสู้รู้รักสามัคคี

5 February 2019
801   0

กระแสการเมืองทั้งนอกและในประเทศ ที่ถาโถมมาอย่างรุนแรงเล่นงานประเทศไทย ขั้นจะมีการบอยขอตถึง 50 ประเทศ เพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวนักฟุตบอลบาห์เรน การออกมาแถลงของกลุ่ม BRN ที่อ้างตัวเป็นกลุ่มมารา ปัตตานี จากประเทศมาเลเซีย ไม่ยอมรับคณะเจรจาของไทย และจะเจรจาหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จ เพื่อหวังขอนำกองกำลังสหประชาชาติ เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ เหมือนกับที่ อิรัก ซีเรีย และกำลังเกิดขึ้นในเวเนซูเอลา จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ประเทศล้มสลาย

ในประเทศกลุ่มนักการเมือง ก็ใช้วาทกรรม “ต่อต้านเผด็จการ” ประกาศล้างแค้นให้กับนายใหญ่ สร้างสัญลักษณ์ทางการเมือง ด้วยการเปลี่ยนชื่อผู้สมัครเป็น ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ส่งสัญญาณเสียงทุกวันจันทร์ ปลุกผีกระแสการต่อต้านทางการเมือง ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ในช่วงที่มีการสมัครเลือกตั้งในประเทศไทย

นั้นหมายถึงสถานการณ์ภายในประเทศ ทั้งภาคใต้และพระนคร ย่อมจะเกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็เพราะรัฐบาลทหารเดินหลักการเมืองผิด มาเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป ทำปฎิรูปไม่เป็นจนขาดความน่าเชื่อถือ จนถูกมองว่าการปฏิรูปคือความล้มเหลว ไม่มีอยู่จริง

มลพิษที่เกิดขึ้นก็เพราะถูกหลอกลวงจาก เศรษฐศาสตร์บริกร ที่เป็นคนของศัตรู ที่อ้างว่าเอามาไว้ใกล้ตัว จะได้ควบคุมได้ง่าย หลอกให้ใช้มาตรา 44 ตั้งแต่ปี 2549 ในการปลอดล๊อคเขตอุตสาหกรรม ให้สร้างโรงงานได้ในเขตควบคุมมลพิษ อ้างว่าจะมีการลงทุนจากจีน ถึง 3 พันล้านบาท แล้วสร้างเสร็จในปี 2560 แต่หารู้ไม่ว่าโรงงานเหล่านั้นเป็นโรงงานที่สร้างมลพิษในจีน และถูกขับไล่ออกจากประเทศจีน หลอกให้ใช้เงินอนาคตทำให้บริหารประเทศล้มเหลวขาดดุลถึง 6 ล้านล้านบาทจนสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แล้วจึงหลอกเข้าสู่การเลือกตั้ง อันเป็นหลักการต่อต้านรัฐประหาร

นอกจากนี้ นิติบริกร ยังหลอกทำลายมาตรา 44 อันเป็นดาบอาญาสิทธิ์ ให้เกิดความล้มเหลว ไม่ให้มีการยึด อายัดทรัพย์ ประหารชีวิต กลุ่มทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยการนำคำสั่งไปใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้อำนาจถูกลดความน่าเชื่อถือลงอย่างสิ้นเชิง

เขาเหล่านี้เป็นกลุ่มบุคคลที่เป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง เคยเดินสายต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ ปลุกนิศิษย์ นักศึกษา หลอกลวงให้มาร่วมกันในการเปลี่ยนการปกครองมาแล้ว ในปี 2553 ช่วงพฤษภาทะเลเพลิง ซึ่งฝ่ายความมั่นคงต่างทราบกันเป็นอย่างดี และจับตามองมาโดยตลอด

พวกเขาได้วางยาในกฎหมายการเลือกตั้ง เช่น ให้นับคะแนนได้หลัง 17 นาฬิกา จากเดิม 15.30 น. เพื่อเปิดทางให้ทุจริตเลือกตั้ง เปลี่ยนหีบได้โดยง่าย อันจะส่งผลให้ฝ่ายต่อต้านชาติเป็นเหตุในการลุกฮือ ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ล่อให้รัฐบาลทหารคายอำนาจ อันจะลามสู่การล้มล้างการปกครอง ดั่งเป้าหมายที่พวกเขาได้วางไว้ตั้งแต่ต้น

ซุบเปอร์โพลที่เคยสนับสนุนว่า ชนะการเลือกตั่งแน่นอน ตอนนี้พลิกมาเป็นเสีย
งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้รัฐบาลทหารมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ควรวางตัวเป็นกลางทางการเมือง โพลต่างๆที่เคยสนับสนุนหันมาต่อต้าน

การเมืองในภายนี้ถูกแทรกแซงกิจการภายใน เพราะประเทศกำลังอ่อนแอ เดินต่อสู่การเลือกตั้ง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่เคยทำการรัฐประหารมาก่อน และนักวิชาการอาวุโส ที่ได้รับการยกย่องระดับประเทศ หลายสิบคน ต่างมีความเห็นตรงกันว่าหายนะใหญ่กำลังรออยู่ข้างหน้า รัฐบาลทหารกำลังถูกล่อให้คายอำนาจทางการเมือง และปลายทางคือการฆ่าทิ้งทางการเมืองในที่สุด อันเปรียบดังการชนะศึก แต่แพ้สงคราม ตามหลักการทหาร แน่นอนในเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมือง เกมส์จะถูกลากไปล้มกระดานตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง และล้มลงอย่างช้าในเดือนตุลาคม 2562 อันจะกระทบต่องานพระราชพิธี

การยังไม่ตัดสินใจรับหรือไม่รับว่าจะเป็นคนกลางต่อไปหรือไม่ ก็ควรใช้สมาธิ สติปัญญา พิจารณาถึงวันที่เข้าเฝ้ากราบพระบาทของ ในหลวงในรัชกาลที่ 9 ที่เสด็จมาพร้อมคุณทองแดง จะทำให้ทราบดีว่าการเข้ามาทำหน้าที่นั้น เข้ามาทำหน้าที่อะไร เป้าหมายคืออะไร และควรดำเนินการอย่างไรต่อไป ในการพลิกสถานการณ์ให้คนไทยกลับมารักกัน เป็นหนึ่งเป็นเดียวกัน รู้รักสามัคคี ปรองดองกันอีกครั้ง ด้วยความปราถนาดี

“ความสามัคคีนั้น อาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกัน ความจริงงานทุกอย่างหรือการอยู่

เป็นสังคมย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน ความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้หลักวิชา

และความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่าง ๆ ย่อมเป็นประโยชน์ หากมีรากฐานของความคิดอย่างเดียวกัน

รากฐานของความคิดนั้นคือ แต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความมีความเป็นปึกแผ่น”

(พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ มีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๑๗)

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
5 กุมภาพันธ์ 2562