เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองปราบปราม ว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกองปราบปราม กำลังสืบสวนคดีคนร้ายวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาร่วมกันกับพวกอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อยู่ในขณะนี้ โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้จับกุมตัวนายโจ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ ได้ที่ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. หลังได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แต่ยังคงมีหมายจับค้างเก่าติดตัวอีก 1 หมาย เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวก่อนจะนำมาสอบปากคำ
เบื้องต้นนายโจ ให้การรับสารภาพว่า ที่ได้ประกันตัวออกมาเป็นเพราะ พ.ต.ท.บรรยิน ที่รู้จักกันในเรือนจำฯ ได้ให้ทนายความส่วนตัวติดต่อทนายความอีกคนให้มาประกันตัวออกจากเรือนจำ พร้อมทั้งยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.บรรยิน ช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นเพราะขณะที่รู้จักกันในเรือนจำ โดย พ.ต.ท.บรรยิน มีคำสั่งให้ตนทำงานให้ 2 ข้อ ข้อแรก ให้หาทางชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ออกจากคุก แต่ถ้าข้อแรกทำไม่สำเร็จให้ลักพาตัวภรรยาของ ผบ.เรือนจำ ซึ่งรับราชการระดับสูงอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปางมาให้ได้ เพื่อไว้ใช้ในการต่อรองกับ ผบ.เรือนจำ เรื่องการหนีออกจากคุก เนื่องจากก่อนหน้านี้พ.ต.ท.บรรยินได้ขอสิทธิพิเศษต่างๆ โดยขอให้ทางเรือนจำย้ายตัวเองไปอยู่ในแดนที่มีความสะดวกสบาย อีกทั้งเมื่อมีญาติเข้าเยี่ยมก็ขอไม่ให้มีการบันทึกเสียง แต่ผู้บัญชาการเรือนจำไม่ยินยอม เนื่องจากผิดหลักเกณฑ์และระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ทำให้พ.ต.ท.บรรยินโกรธและข่มขู่ผู้บัญชาการเรือนจำให้ปล่อยตัวเองเดินออกจากเรือนจำ หากไม่ทำตามที่ขอจะอุ้มภรรยา พร้อมทั้งยังให้เบอร์โทรติดต่อไปหา ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ ที่เคยเป็นลูกน้องของ พ.ต.ท.บรรยิน เพื่อร่วมกันวางแผน ครั้งแรกโทรติดต่อไปหา ส.ส. ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ให้เบอร์มาแต่ฝ่ายนั้นไม่เอาด้วย เว้นระยะเวลาไป 2-3 วัน ได้โทรไปหาอีกครั้งเพื่อขอเงิน แต่ไม่ได้ ชุดสืบสวนกองปราบปรามจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.หัวหมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้เข้าไปสืบสวนหาข่าวจากเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ จนทราบว่า นอกจากนายโจ ที่ถูก พ.ต.ท.บรรยิน สั่งทำงานแล้ว ยังมีนายท๊อป อายุ 30 ปี ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ ชาว จ.นครสวรรค์ บ้านเดียวกันกับ พ.ต.ท.บรรยิน อีกคน โดยแหล่งข่าวภายในเรือนจำแจ้งว่า ระหว่างที่ทั้งคู่ถูกคมขังได้มีความสนิทกับ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นอย่างมาก จากนั้นได้รับการปล่อยตัวออกมาจากการประกันตัว หลังทราบเรื่องชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้ตรวจสอบหาเบาะแสจนสามารถจับกุมตัวนายท็อป ได้หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนนำตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด โดยนายท็อป ให้การรับว่า รู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยิน ในเรือนจำจริง ส่วนเรื่องการประกันตัวออกมาเป็นญาติหาเงินมาประกัน นอกจากนี้ยังให้การว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ พ.ต.ท.บรรยิน ได้สั่งให้หาทางช่วยเหลืออกจากคุกเช่นเดียวกับนายโจ โดยบอกว่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้เล่ารายละเอียดในการวางแผน ว่า จะมีคนมาวางระเบิดข้างเรือนจำ จากนั้นจะล้มเสาธงชาติกลางลานสนามหญ้า เพื่อใช้ปีนหนี เมื่อออกมาได้จะมีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวอีกที หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้น จึงได้แจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ จ.นครสวรรค์