‘ป.ป.ช.’ มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ‘ศักดิ์สยาม-พวก’ ฐานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีประวิงเวลาการออกใบอนุญาตฯประกอบ ‘ธุรกิจการบิน’ ให้ ‘บ.สกาย เอกซ์ทรีม’ ทำให้บริษัทฯเสียหาย
……………………………..
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และพวก ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการประวิงเวลาและมีเจตนาที่จะไม่ให้ บริษัท สกาย เอกซ์ทรีม จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ (เพื่อการทิ้งร่มอากาศ-โดดพสุธา) ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหาย
สำหรับคดีนี้ เมื่อเดือน ธ.ค.2562 บริษัท สกาย เอกซ์ทรีม จำกัด ได้ยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ (เพื่อการทิ้งร่มอากาศ-โดดพสุธา) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และตามขั้นตอนแล้วจะต้องได้รับใบอนุญาตฯที่ออกโดย รมว.คมนาคม โดยเครื่องบินที่ บริษัท สกาย เอกซ์ทรีม จำกัด ยื่นเพื่อนำมาใช้ในการประกอบการกิจการฯ มีอายุ 15 ปี 3 เดือน ซึ่งยังไม่ครบ 16 ปี
แต่ปรากฏว่าในระหว่างที่กระทรวงคมนาคม โดยคณะที่ปรึกษา รมว.คมนาคม กำลังพิจารณาเรื่องฯ เพื่อเสนอให้ รมว.คมนาคม ออกใบอนุญาตฯ นั้น กระทรวงฯ มีข้อสังเกตว่า ในการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศฯ เครื่องบินที่ใช้ในการประกอบกิจการต้องมีอายุไม่เกิน 16 ปีนับตั้งแต่วันที่ผลิต และหากผู้ขอรับใบอนุญาตฯได้ใบอนุญาตฯที่มีกำหนดอายุ 3 ปีไปแล้ว จะทำให้เครื่องบินมีอายุเกิน 16 ปี ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขหรือไม่
กระทรวงคมนาคม จึงขอให้ กพท. นำเรื่องดังกล่าวไปทบทวนใหม่อีกครั้ง ซึ่งต่อมา กพท. ได้ทำหนังสือขอหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นเรื่องเสร็จที่ 1611/2563 เมื่อเดือน ธ.ค.2563 ว่า หลักเกณฑ์เรื่องอายุเครื่องบินที่จะนำมาใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อขอรับใบอนุญาตฯนั้น ให้พิจารณา ณ วันเวลาที่ยื่นขอใบอนุญาตเท่านั้น ไม่ใช่เวลาที่ออกใบอนุญาต
นอกจากนี้ ฝ่ายกฎหมายของ กพท. ที่มีความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้ว่า หลักเกณฑ์เกี่ยวกับอายุเครื่องบินตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 97 ว่าด้วยการอนุญาตประเภทกิจการการบินพลเรือน ประเภทการขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์และประเภทการทำงานทางอากาศ ที่ระบุว่า เครื่องบินจะต้องมีอายุไม่เกิน 16 ปีนับแต่วันผลิต นั้น ไม่ใช่หลักเกณฑ์คุณสมบัติด้านอายุสูงสุดของเครื่องบินที่ผู้รับใบอนุญาตต้องดำรงไว้ตลอดอายุใบอนุญาตฯ
ขณะที่ทาง กพท. เอง ได้มีกระบวนการกำกับดูแลความปลอดภัยของเครื่องบินในเรื่องใบสำคัญสมควรเดินอากาศ (Certificate of Airworthiness) ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อยู่แล้ว
กระทั่งต่อมา กพท.ได้รายงานเรื่องกลับไปให้กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมในขณะนั้น พิจารณาเรื่องการออกใบอนุญาตฯอีกครั้ง ก่อนที่นายศักดิ์สยาม ได้ออกใบอนุญาตฯเลขที่ 3/2564 ลงวันที่ 2 ก.ค.2564 ให้แก่ บริษัท สกาย เอกซ์ทรีม จำกัด
อย่างไรก็ตาม บริษัท สกาย เอกซ์ทรีม จำกัด เห็นว่า การพิจารณาออกใบอนุญาตฯให้กับบริษัทฯ ที่ต้องใช้เวลานานถึง 1 ปี 6 เดือน นั้น เกินกว่ากรอบเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือประชาชนว่า การดำเนินการรวมทุกขั้นตอนให้ใช้เวลา 80 วันทำการ และในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น นายศักดิ์สยาม ในฐานะรมว.คมนาคม กับพวก ได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ (เพื่อการทิ้งร่มอากาศ) ให้กับเอกชนรายอื่นๆ
บริษัท สกาย เอกซ์ทรีม จำกัด จึงได้มายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการเอาผิด นายศักดิ์สยาม ในฐานะ รมว.คมนาคม และพวก ที่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ บริษัท สกาย เอกซ์ทรีม จำกัด ได้รับความเสียหาย
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อปี 2563 น.ท.วีระพจน์ พรหมโชติ ประธานกรรมการบริหารบริษัท สกายเอ๊กซ์ตรีม จำกัด ในขณะนั้น ให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนักฯ ว่า บริษัทฯได้รับความเดือดร้อน เนื่องจาก กพท.และกระทรวงคมนาคม ไม่ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ (เพื่อการทิ้งร่มอากาศ) ให้ ทั้งๆที่เครื่องบินที่นำมาใช้ประกอบกิจการฯมีอายุไม่เกิน 16 ปี ทำให้เครื่องบินที่ซื้อมาในราคา 33 ล้านบาท ไม่สามารถขึ้นบินได้
อย่างไรก็ดี เนื่องจากปัจจุบันคดีนี้อยู่ในขั้นตอนการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. และยังไม่ได้มีการชี้มูลความผิดแต่อย่างใด นายศักดิ์สยาม กับพวก จึงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่