หมู่บ้านเรามีคนคิดอะไรง่ายๆคนหนึ่งชื่ออาเตียว แกคิดว่าตัวเองเป็นพวกคนยิ่งใหญ่มีความสามารถ แต่ปรากฏว่าไม่ว่าทำเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็ไม่เคยสำเร็จ แต่แกเป็นคนพูดเก่ง มีช่วงนึงก็เลยแต่งตั้งตัวเองเป็นหมอดู หลอกเอาเงินคนอื่นไปทั่ว ปรากฏว่ามีหญิงวัยกลางคนฐานะดีคนหนึ่ง มีปัญหากับสามีก็เลยมาดูดวง แกก็หลอกจับมือ พอเรื่องนี้รู้ไปถึงหูสามีของผู้หญิงคนนั้น อาเตียวก็โดนซ้อมไปหนึ่งยก แผงดูหมอแกก็พินาทไปหมด ทำมาหากินต่อไปไม่ได้
(เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้น)
หลายปีก่อน อาเตียวส่งบัตรเชิญมาให้ แกว่าแกเปิดโรงแรม ก็เลยมาเชิญให้ทุกคนไปงานแกรนด์โอเพนนิ่ง คนแถวนี้ไม่ใช่ญาติก็เป็นเพื่อนบ้านกัน ในเมื่อมาเชิญขนาดนี้ ไม่ไปก็จะดูไม่ดี
ไปงานก็ต้องมีการใส่ซอง 1000 นึงอย่างต่ำ ในงานมีคนมา 300 คน อาเตียวได้เงินไปไม่น้อย แต่ยังไม่ถึง 3 เดือนโรงแรมก็ดูจะไปไม่รอด แล้วก็เจ๊งจริงๆตามคาด โรงแรมเจ๊งได้ไม่นาน ก็ได้รับบัตรเชิญจากอาเตียวอีกใบ บอกว่าเมียเพิ่งเปิดร้านขายเสื้อผ้า งานนี้ทุกคนก็ต้องใส่ซองอีก กินอาหารกันเสร็จ พอแขกกลับไป อาเตียวก็ปิดประตูนับเงิน ได้มาไม่น้อย แกหัวเราะออกมาอย่างดีใจ ร้านเสื้อผ้าของแกมีเสื้อผ้าไม่เยอะ ทำท่าว่าจะไปไม่รอด แล้วก็เจ๊งไปใน 3 เดือน หลังจากร้านเสื้อผ้าเจ๊งไปได้เดือนนึง ทุกคนก็ได้รับบัตรเชิญจากอาเตียวอีกรอบ แกเพิ่งเปิดร้านอุปกรณ์ตกปลา แม้ว่าคนได้รับบัตรเชิญจะส่ายหัว แต่ก็ในเมื่อแกมาเชิญแล้ว ก็คงต้องไป แม้ว่าร้านอุปกรณ์ตกปลาจะดูไม่มีอนาคตเลยก็ตาม คาดไม่ถึงว่าร้านอุปกรณ์ตกปลาเปิดได้ไม่กี่วันก็ต้องปิดกิจการลง มีคนเอามาเล่าว่า จริงๆแล้วอาเตียวเช่าร้านแต่ละที่แค่ 3 เดือนเท่านั้น บางคนพอรู้เรื่องนี้ก็โกรธที่ใส่ซองให้เงินไป ก็เลยโทรไปหาอาเตียว แต่แกก็เปลี่ยนเบอร์แล้วก็หายไป จากนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงอาเตียวอีก
(เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้น)
ที่แท้ครอบครัวของอาเตียวก็ย้ายไปอยู่ที่เมืองหนานกั่ง แกใช้เงินที่ได้มาจากคนที่ใส่ซองให้มาตั้งตัว เริ่มจากการรับซื้อของเก่า เนื่องจากแกเป็นคนปากหวานพูดจาดี คนแก่ๆเลยมักจะยกของเก่าๆในบ้านให้แกฟรีๆ หรือบางทีแกก็จะหลอกเอาของที่ค่อนข้างมีค่ามีราคามาได้ พูดง่ายๆก็คือ อาเตียวมีฐานะดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกชายก็โตจนกำลังจะแต่งงาน เมียแกว่า ปีนี้เงินทองไม่ค่อยคล่องมือเท่าไหร่ จัดงานใหญ่ๆไม่ได้ แต่งานแต่งของลูกชายเป็นเรื่องสำคัญ อย่างนี้กลับไปจัดในที่ๆเรารู้จักดีดีกว่า อาเตียวคิดแล้วก็เห็นด้วย บ้านของลูกสะใภ้ก็ฐานะร่ำรวย แถมสะใภ้ยังสวยมาก แกคิดว่าชีวิตนี้ยังขาดอะไร สิ่งที่ขาดก็คือความประทับใจในอดีต แกยังติดอยู่ที่นั่น ก็เลยตัดสินใจไปจัดงานแต่งลูกชายที่บ้านเกิด พร้อมเชิญครอบครัวฝ่ายหญิงไปอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ก่อนจะตัดสินใจอย่างนั้น แกโทรกลับไปหารุ่นพี่ที่นับถือที่นั่น บอกว่าจัดงานครั้งนี้ แกไม่รับซอง แค่ต้องการให้งานสนุกสนาน ครอบครัวของรุ่นพี่ก็บอกโอเค ทำแบบนี้ดีที่สุด หลายปีมานี้คนที่นี่ก็คงคิดถึงแก แกดีใจเอาสมุดที่เคยจดบันทึกคนที่ใส่ซองให้แกออกมาดู แล้วก็ทำการ์ดเชิญจากนั้นก็ให้รุ่นพี่ไปช่วยแจกให้ และเพื่อให้งานออกมายิ่งใหญ แก่ถึงกับไปจ้างเชฟชื่อดังจากหนานกั่ง ซื้อวัตถุดิบและเหล้าต่างๆก่อนจะกลับไป
วันแต่งงาน ในงานจัดโต๊ะจีน 30 ตัว บนโต๊ะทุกตัวมีเหล้า ซิก้า และชาอย่างดี อาเตียวสวมชุดใหม่ ไปคอยรับแขกอยู่ในสวน แต่ตอนนี้เที่ยงแล้ว ยังไม่มีใครมา แกเริ่มนั่งไม่ติด รุ่นพี่ก็บอกว่าไม่รู้ แกถามว่าแล้วทำไมยังไม่มา รุ่นพี่ว่าไม่มีใครไป เขาก็ไม่อยากไป เขาว่าจัดงานเสร็จอาเตียวกลับไปอยู่หนานกั่ง แต่เขายังต้องอยู่ที่นี่ต่อ
(เป็นเพียงรูปประกอบเท่านั้น)
อาเตียววางสาย แกมองไปรอบ ๆ ไม่มีแขกมาสักคน แมลงวันบินกันจนหิว ครอบครัวของเจ้าสาวก็กระซิบกระซาบ เมียของอาเตียวก็เริ่มรุกรี้รุกรน อาเตียวทนไม่ไหวอีกต่อไป แกลุกขึ้นยืน น้ำตาไหลพราก บอกเมียให้อยู่เป็นเพื่อนครอบครัวของเจ้าสาว วันนี้ถึงแม้ต้องคุกเข่าอ้อนวอน แกก็จะพาญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมงานให้ได้ พูดจบ แกก็กัดฟันเดินออกไป
ที่มา thaihotnews
AdminPhaitong สำนักข่าว vihok news