ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 8 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
1 ธ.ค. 64 เวลา 09.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 8 จังหวัด โดยในห้วงวันที่ 23 พ.ย. – 1 ธ.ค. 64 พื้นที่ภาคใต้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา) รวม 23 อำเภอ 100 ตำบล 436 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,261 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำเพิ่มขึ้น ขณะที่สถานการณ์จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 1 ธ.ค. 64 ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด (อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม) รวม 11 อำเภอ 94 ตำบล 730 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,484 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งระบายน้ำ และให้การช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ในห้วงวันที่ 23 พ.ย. – 1 ธ.ค. 64 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พัทลุง และสงขลา รวม 43 อำเภอ 178 ตำบล 766 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,109 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด 23 อำเภอ 100 ตำบล 436 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,261 ครัวเรือน ดังนี้
1.ชุมพร มีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าตะโก อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน รวม 19 ตำบล 84 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,900 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
2.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอชัยบุรี อำเภอพุนพิน อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอบ้านนาเดิม รวม 36 ตำบล 201 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,002 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
3.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาบอน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอชะอวด อำเภอทุ่งสง อำเภอบางขัน อำเภอฉวาง อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอนบพิตำ และอำเภอท่าศาลา รวม 39 ตำบล 143 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,241 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4.สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด และอำเภอนาหม่อม รวม 6 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 118 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 1 ธ.ค. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม รวม 11 อำเภอ 94 ตำบล 730 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,484 ครัวเรือน โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนี้
1.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 306 ครัวเรือน
2.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 240 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,015 ครัวเรือน
3.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ และอำเภอเสนา รวม 16 ตำบล 133 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,735 ครัวเรือน
4.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 46 ตำบล 335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,428 ครัวเรือน
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง/////