.
หน่วยงานรัฐบาลปากีสถานเปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักผิดปกติจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ในประเทศตั้งแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 549 ราย โดยแคว้นบาลูจิสถาน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปากีสถานเผชิญกับฝนตกชุกหนักสุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ โดยปริมาณน้ำฝนเพิ่มจากค่าเฉลี่ยในช่วง 30 ปี ถึง 133% ขณะที่แคว้นบาลูจิสถาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับอิหร่านและอัฟกานิสถาน มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าค่าเฉลี่ยรายปีถึง 305%
.
โดยปกติแล้วในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ปากีสถานจะเผชิญกับน้ำท่วมหนักเป็นประจำทุกปี แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ปัญหาสภาวะโลกรวนทำให้ฝนตกหนักรุนแรงและถี่ขึ้นมากกว่าเดิมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดการปัญหาน้ำท่วมและการรับมือภัยธรรมชาติที่ขาดประสิทธิภาพของรัฐบาล
.
นอกเหนือจากตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สูงจนน่าวิตกแล้ว ยังมีบ้านเรือนกว่า 46,200 หลังที่ได้รับความเสียหาย โดย เชห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย และให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างดีที่สุด ซึ่งขณะนี้หน่วยงานของรัฐและกองทัพได้ตั้งแคมป์ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย และประสานงานเพื่อช่วยอพยพประชาชน พร้อมจัดหาอาหารและยารักษาโรคที่จำเป็นแล้ว
.
อย่างไรก็ตาม แคว้นบาลูจิสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดนั้น ได้ขอให้รัฐบาลจัดสรรเงินทุนบรรเทาทุกข์เพิ่มเติม พร้อมวอนขอให้องค์กรระดับนานาชาติลงพื้นที่ช่วยเหลือ โดย อับดุล คูดูส เบเซนโจ มุขมนตรีประจำแคว้น ยอมรับว่าหลายพื้นที่ในแคว้นได้รับความเสียหายรุนแรงมาก