3 ตุลาคม 2564 เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน และลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ในอัตรา 2,700 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
อีกทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำไหลลงเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอัตรา 900-1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา (C.29A) ก่อนเข้าพื้นที่ จ.ปทุมธานี อยู่ในอัตราประมาณ 3,000-3,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที โดยอาจจะทำให้มีผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นอกคันกั้น คือ อ.สามโคก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่ตลาดอิงน้ำสามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตลาดเก่าและแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.ปทุมธานี พบว่ามีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดสูง 20-30 เซ็นติเมตร ทำให้ร้านต่างพากันปิดและก่ออิฐพร้อมนำกระสอบทรายมากั้นเพื่อกันน้ำ ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงตลาดเช่น วัดสะแก ต.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา มีเอ่อล้นเข้าท่วมลานวัด เมรุและพระอุโบสถต้องนำกระสอบทรายมากั้นทั่วบริเวณ
🇹🇭