กูรูกฎหมาย ! “บวรศักดิ์” มองแผนปฏิรูปลากยาว มอบข้าราชการเจ้าของกฎหมายเข้ามาดูแลเร่งทำงานปิดจ็อบเหมือนบริษัทรับเหมา รับเหนื่อยมองไม่เห็นบทสรุปแสงสว่างปลายอุโมง ซัด 4 ปีมีแต่แผนไม่คืบ พ้อกรรมการแค่นั่งร่วมโต๊ะไม่มีอำนาจ ชี้บิ๊กตู่นั่งนากยกรัฐมนตรีต่อสานงานสำเร็จ ฟันธงเป็นคนอื่น”มาร์ค เจ๊หน่อย ธนาธร” ส่อโละทิ้งแน่
13 พ.ค. 61 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ชี้แจงแผนการปฏิรูปว่า แนวทางการปฏิรูปกฎหมาย
1.ต้องมีกฎหมายที่ดี
2.มีกฎหมายเท่าที่จำเป็น
3.ลดกฎหมายที่ล้าหลังเป็นภาระต่อประชาชน
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า รวมถึงต้องออก พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดทำกฎหมายและประเมินผลสำฤทธิ์ เพื่อติดตามการออกกฎหมายต่างๆ และกฎหมายฉบับใดที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้ใน 2 ปี จะต้องถูกยกเลิก พร้อมเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องที่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ขณะเดียวกันยังต้องตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนปฏิรูประยะเร่งด่วน ขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณากฎหมายล้าสมัย ใช้วิธีการ ดังนี้
1.ตั้งคณะผู้ทบทวนกฎหมาย 20 กระทรวง เอากฎหมายก่อนปี 2500 มาดู
2.ส่งคนไปหาข้อมูล คุยกับองค์กรอื่นๆ เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการสิทธิ์มนุษยชน ฯลฯ และไปดูว่าศูนย์ดำรงธรรมมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกฎหมายอย่างไรบ้าง และยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น
นายบวรศักดิ์ ยังกล่าวถึงภาพรวมการปฏิรูปว่า ตนรู้สึกเหนื่อย เพราะมองไม่เห็นว่า จะไปจบลงอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตั้งองค์การอย่างสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก่อนยุบตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แล้วยุบตั้งคณะกรรมการปฏิรูปด้านต่างๆ 11 คณะ
“ทุกคณะมีแต่แผน แล้วให้ส่วนราชการเป็นผู้ปฏิบัติ แต่คิดว่า การใช้ส่วนราชการเป็นฝ่ายปฏิบัตินั้น ไม่ใช่เรื่อง่ายที่จะสำเร็จ เพราะเหมือนกับให้ผู้ที่ถูกปฏิรูปมาทำเรื่องปฏิรูปเสียเอง ระบบราชการยังคิดแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ต่างจากกรรมการปฏิรูปที่ต้องการลงมือทำในทันที ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่า การปฏิรูปจะสำเร็จหรือไม่ เพราะเหมือนกับให้ผู้รับเหมามาทำหน้าที่ตรวจงานตัวเอง ดังนั้นจึงอยากมีข้อเสนอแนะให้กรรมการปฏิรูป มีอำนาจในการเสนอกฎหมายด้วย ไม่ใช่ให้ส่วนราชการเป็นผู้เสนอกฎหมายอย่างเช่นเวลานี้” ปธ.คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย กล่าว
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า แม้จะใช้เวลาถึง 4 ปีแล้ว แต่การปฏิรูปยังอยู่ในขั้นตอนการวางแผน ยังไม่มีอะไรคืบหน้า และตอบไม่ถูกว่า การปฏิรูปจะแล้วเสร็จเมื่อใด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บัญญัติให้การปฏิรูปอยู่ในบทถาวร ซึ่งหมายความว่า จะต้องปฏิรูปต่อไป ตราบเท่าที่รัฐธรรมนูญยังคงอยู่ แต่ในความเห็นจริงแล้วเราจะปฏิรูปไปตลอดชาติไม่ได้
นายบวรศักดิ์ ยังแสดงมุมมอง ในส่วนรัฐบาลเลือกตั้ง จะโละสิ่งที่กรรมการปฏิรูปและกรรมการยุทธศาสตร์ชาติทำไว้หรือไม่นั้นว่า รัฐบาลเลือกตั้งจะต้องเข้ามาปรับเปลี่ยนแน่นอน แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะแก้รัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องยาก สำหรับคณะกรรมการปฏิรูป ถ้ารัฐบาลหลังเลือกมีนายกฯชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้านายกฯเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คิดว่า คงดูไม่จืด เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องจัดการกับคณะกรรมการเหล่านี้แน่
“หลังเลือกตั้งเชื่อว่า กรรมการปฏิรูปยังจะไปได้ต่อ แต่อยู่ที่ว่า จะต่ออย่างขัดแย้งหรือเต็มใจ ถ้าต่อแบบเต็มใจทุกอย่างก็แฮปปี้ เอนดิ้ง แต่ถ้าต่อแบบขัดแย้ง มันจะดูไม่จืด สมมุตินายกฯชื่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม้นายกฯจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภาเป็นด่านสกัด แต่ คสช.มี ส.ว. ก็ลองจิตนาการดูแล้วกัน ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในโครงสร้างทางการเมืองไทย มันจะหนีความขัดแย้งไม่พ้นหรอก ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกัน แต่ถ้านายกฯหลังเลือกตั้งคือ พล.อ.ประยุทธ์ มันก็ราบรื่น ทั้งนี้ ผมตอบไม่ได้ว่า หลังเลือกตั้งนายกฯจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ผมไม่ใช่ผู้มีญาณหยั่งรู้มหาสมุทรเหมือนขงเบ้ง และผมไม่ได้สนับสนุนอะไรทั้งสิ้น แต่ผมก็ไม่ได้คัดค้าน มันอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อยู่ที่สมาชิกวุฒิสภา เป็นปัจจัยที่ผมคุมไม่ได้ทั้งนั้น และผมก็ไม่อยากยุ่งกับการเมือง” ปธ.คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ระบุ
สำนักข่าววิหคนิวส์