เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. จากกรณี นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้สืบสวนพฤติการณ์เรียกรับเงินบริจาคของบุคคลที่มีชื่อเสียงรายหนึ่ง ซึ่งแอบอ้างโครงการจัดทำเสื้อสีชมพูของโรงพยาบาลศิริราช เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง ซึ่งผันตัวไปเป็นจิตอาสาออกช่วยเหลือประชาชน ไลฟ์เฟซบุ๊กชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ตนฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะถึงแม้จะไม่มีชื่อผม แต่มีรูปผมหราอยู่ในนั้น คุณสันธนะ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไปร้องเรียนเรื่องเสื้อของโรงพยาบาลศิริราช ถือว่าคุณสันธนะ ทำไม่ถูก เพราะควรจะไปคุยกับเสี่ยโป้ ก่อน โดยก่อนวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เสี่ยโป้ โทรมาหาผมแล้วบอกว่าผมมีเงินให้พี่ 20 ล้านบาท ผมก็บอกว่าจะให้ผมเรื่องอะไร เสี่ยโป้ บอกว่า เผื่อพี่ต้องใช้เงินทำโน่นทำนี่ ผมก็เลยตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร เสี่ยโป้ เลยบอกว่าวันที่ 1 พ.ย.ผมไปเจอพี่นะ พอวันที่ 1 พ.ย.ก็มาเจอกัน แล้วก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน 20 ล้านบาท โดยส่วนตัวผมเห็นว่าเสี่ยโป้ นิสัยดี เพราะบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม 1 ล้านบาท อีกทั้งยังบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลายครั้ง แต่หลังจากวันที่ 1 พ.ย.ก็ไม่ได้เจอกันอีก
นายบิณฑ์ กล่าวอีกว่า วันหนึ่งมีผู้ใจบุญมอบเสื้อชมพูให้ 500 ตัว ผมก็ใส่ในวันที่ 1 พ.ย. พร้อมแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงาน จากนั้นคุณนิรันดร ซึ่งเป็นเจ้าของเสื้อสีชมพู โทรมาหาผมแล้วบอกว่าเห็นทีมงานใส่เสื้อสีชมพู พอดีมีเสื้อสีชมพูที่สั่งทำไว้ 3 แสนตัวแต่ยังไม่ได้ขาย สามารถมอบให้พี่บิณฑ์ 5 พันถึง 1 หมื่นตัว แต่ขอให้พี่บิณฑ์ หานายทุนมาช่วยซื้อ ผมก็เลยนึกถึงเสี่ยโป้ ที่เคยบอกว่าจะเอาเงินมาช่วย 20 ล้านบาท ผมจึงโทรศัพท์ไปหาแล้วบอกว่า เอาไหมถ้าจะทำบุญก็ให้ช่วยซื้อเสื้อสีชมพูของคุณนิรันดร ซึ่งขายตัวละ 100 บาท แล้วเอาไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ซึ่งเสี่ยโป้ ตอบกลับมาว่าโอเค ผมจะช่วย 10 ล้านบาทเพื่อซื้อเสื้อสีชมพู 1 แสนตัว โดยจะโอนเงินครั้งละ 2 ล้านบาท 5 ครั้งเข้าไปทางมูลนิธิศิริราช เมื่อเสี่ยโป้ ตอบตกลง ผมก็เลยให้คุยกับคุณนิรันดร หลังจากตกลงเสร็จสรรพ เมื่อถึงเวลาที่คุณนิรันดร จะเอาเสื้อไปให้ที่มูลนิธิศิริราช ทางมูลนิธิบอกว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ผมจึงโทรไปหาเสี่ยโป้ ซึ่งได้รับคำตอบว่าติดภารกิจเรื่องคดี จากนั้นผมก็พยายามติดต่อเรื่อยมาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตนจึงบอกเสี่ยโป้ ว่าไม่เอาแล้วนะ เพราะผมรู้ว่าถ้าเสี่ยโป้ จะช่วย ก็คงโอนเงินไปที่มูลนิธิศิริราชเอง
นายบิณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทั่งผ่านไป 1 อาทิย์ คุณสันธนะ โทรมาหาผมแล้วบอกว่าผมไปบังคับเสี่ยโป้ ให้ไปซื้อเสื้อสีชมพู ผมจึงตอบกลับไปว่า ผมไม่ได้บังคับ ต้องไปถามเสี่ยโป้ เพราะเสี่ยโป้ รับปากเองว่าจะซื้อเสื้อ 1 แสนตัว ตัวละ 100 บาท แล้วจะโอนเงินเข้ามูลนิธิเอง ซึ่งวันนั้นคุณสันธนะ ก็คุยกับผมดี แล้วจู่ๆ วันนี้คุณสันธนะ ไปยื่นหนังสือเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ ทำให้ผมเสียหาย ทำให้คนเข้าใจผมผิด ดังนั้นเรื่องนี้เสี่ยโป้ ต้องออกมา ไม่ใช่คุณสันธนะ ไปยื่นหนังสือแล้วทำให้คนเข้าใจผิด เรื่องนี้ผมฟ้องกลับคุณสันธนะ ได้ เพราะทำให้ผมเสียหาย คุณสันธนะ ต้องคุยกับเสี่ยโป้ เพราะเสี่ยโป้ เป็นคนที่ต้องการทำบุญเอง ที่สำคัญ คือ เสี่ยโป้ จดเลขที่บัญชีของมูลนิธิศิริราช ไป เพราะฉะนั้นเงินจะไม่โอนมาที่ผม แต่จะโอนเข้ามูลนิธิศิริราช ผมไม่เกี่ยว คุณเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า มาทำแบบนี้เพื่ออะไร ผมไม่เคยทำความเดือดร้อนให้คุณสันธนะ และผมไม่เคยรู้จักคุณสันธนะ มาก่อน ผมทำงานช่วยเหลือสังคมมา 30 ปีไม่เคยมีอะไรด่างพร้อย เพราะฉะนั้นเสี่ยโป้ ต้องออกมาเคลียร์ความจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น