พล.อ.ประยุทธ์บอกนิสิต “ตั้งความหวังเป็นทหาร ไม่ได้ตั้งใจมาเป็นนายกฯ” ยอมรับตอนนี้อ่านมากจนจำตัวเองไม่ได้ พอแต่งตัวถึงรู้ว่าเป็นนายกฯ พร้อมย้ำการปฏิรูปต้องใช้เวลา ไม่ได้เร็วเหมือนเข้าห้องน้ำ
ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับการขับเคลื่อนประเทศในระยะเปลี่ยนผ่าน” มีใจความตอนหนึ่งว่า เคยมาที่จุฬาฯ หลายครั้ง เนื่องจากลูกสาวเรียนจบที่นี่ และภรรยาก็เคยสอนที่นี่ จึงรู้สึกใกล้ชิดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับนิสิตนักศึกษาเพราะเราคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น จึงรู้สึกยินดีที่ได้มาสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน
นายกรัฐมนตรีระบุว่า วันนี้เราอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน เป็นระยะสำคัญว่าจะดีขึ้นหรือเลวลง ไม่มีใครรู้ แต่ต้องทำให้ดีที่สุด อะไรที่เป็นปัญหาความขัดแย้งต้องคลี่คลายไปในทางที่ดี จุฬาฯ เป็นสถาบันที่ทรงเกียรติ ปีนี้จะครบรอบ 100 ปี สิ่งสำคัญคือการมีวิสัยทัศน์มองไปข้างหน้า อย่ามองอดีตอย่างเดียว อดีตมีไว้ให้เรียนรู้สิ่งไม่ดีอย่าทำอีก ต้องทำปัจจุบันและอนาคต เพราะใครทำอะไรวันนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ในวันข้างหน้า นำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ไม่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบและวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมาอีก เราเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย แต่ต้องคิดถึงความเป็นมาเป็นไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีว่า “ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ เพราะคงไม่อยู่ถึง 20 ปี ถึงวันนั้นคงแก่ตายแล้ว” แต่เป็นกรอบในการเดินหน้าประเทศ ซึ่งทุกประเทศมีหมด แต่ประเทศไทยมีบางส่วนที่แม้แต่วันเดียวก็ไม่ต้องการ พร้อมระบุว่าแผนนี้วางไว้ 20 ปี แต่ทุก 5 ปีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และทุกปีก็เปลี่ยนได้หากมีเหตุผลที่เพียงพอ
พล.อ.ประยุทธ์ยังขอให้ทุกคนตั้งความหวัง เช่นเดียวกันตนเองที่ไม่สมบูรณ์และร่ำรวยตั้งแต่เด็ก แต่ “ตั้งความหวังว่าจะเป็นทหาร ไม่เคยเปลี่ยน แต่ไม่ได้ตั้งใจมาเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยอะไรก็แล้วแต่ต้องมายืนในวันนี้” แต่ทุกคนต้องตั้งมั่นเป็นคนดีให้ได้ ร่วมมือกันแก้ปัญหาและอุปสรรคไปให้ได้ ทุกวันนี้อ่านหนังสือและเอกสารมากมาย จนบางวันจำอะไรไม่ได้ จำตัวเองยังไม่ได้ แต่เมื่อแต่งตัวถึงรู้ว่าตัวเองเป็นนายกฯ
ส่วนที่หลายคนบอกว่าอะไรที่ไม่เหมาะสมให้ทุบทิ้งให้หมด นายกรัฐมนตรีตั้งคำถามว่าแล้วจะเอาเงินมาจากที่ไหน ก่อนย้ำว่าการปฏิรูปต้องไม่ทำลายล้างอะไรทั้งสิ้น แต่เปลี่ยนแปลงในแบบของเรา เพราะประเทศไทยไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
“การปฏิรูปไม่ได้เร็วเหมือนเข้าเวลาเข้าห้องน้ำ เพราะบางประเทศใช้เวลา 10-20 ปี ขณะเดียวกันเราต้องผ่านคลื่นลมและอุปสรรคอีกมากมาย แต่เราต้องร่วมมือกันให้ได้ ความขัดแย้งต้องไม่เอาอีกแล้ว วันนี้ทุกประเทศเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น เพราะบ้านเมืองเราสงบเรียบร้อย ก็เอาสิ เลือกเอา ว่าจะไม่พูดแล้ว เลือกตั้งวันหน้าต้องคอยดูกันต่อไป อาจจะดีก็ได้ แต่อย่ามาโทษผมอีก และขอให้ทุกคนเคารพกฏหมาย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
Cr: Fb.บีบีซีไทย-BBC Thai
สำนักข่าววิหคนิวส์