ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #บิ๊กตู่ ลั่น ปีหน้าถ้ายังขัดแย้ง-ตีกันอยู่ ไม่รับปากมีเลือกตั้ง

#บิ๊กตู่ ลั่น ปีหน้าถ้ายังขัดแย้ง-ตีกันอยู่ ไม่รับปากมีเลือกตั้ง

31 December 2017
1010   0

“บิ๊กตู่”ไม่รับปากจะมีการเลือกตั้งถ้ายังตีกันอยู่ ระบุปีใหม่นี้ไม่อยากได้ความขัดแย้ง

วันที่ 31 ธ.ค.2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ปีใหม่ปีนี้ได้บอกกับทุกคนว่าไม่ต้องมาอวยพร และมอบของขวัญให้ตน ขอให้ทุกคนกลับไปดูแลและอวยพรลูกน้องและคนที่รักดีกว่า อีกทั้งตนมีพรให้กับเขาเสมอ ส่งการ์ดส่งความปรารถนาดีไปให้ ซึ่งเขาก็ส่งการ์ดอวยพรกลับมาก็พอใจแล้วถือว่าเป็นการระลึกถึงกัน และขอร้องว่าอย่าไปคิดว่าตนไม่ให้ความสำคัญกับเทศกาลสำคัญเช่นนี้ สำหรับตนเทศกาลปีใหม่ถือเป็นประเพณีที่สำคัญ เราก็ส่งใจถึงกันตลอดเวลา มีการส่งการ์ดถึงกัน ตนไม่ต้องการเป็นภาระในช่วงปีนี้เพราะต้องการใช้เวลาเพื่อคิดเรื่องต่าง ๆ มากมาย

“หลายคนก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมผมไม่รับการอวยพร ผมก็บอกว่าขอเถอะสำหรับปีนี้ ขอให้ท่านไปดูแลคนอื่น ๆ ดูแลครอบครัว และผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด ของขวัญผมไม่ได้ต้องการ พอแล้ว ของขวัญก็มีดอกไม้ ผลไม้ ขอให้เอาไปให้ผู้ใหญ่ที่ตัวเองนับถือ ไม่เช่นนั้นป่านนี้ก็ต้องมายืนรออวยพรเป็นแถวผมก็กลายเป็นภาระของพวกท่าน”นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถาม ปีใหม่ปีนี้มีสิ่งใดที่ไม่อยากได้บ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่อยากได้ความไม่สงบสุข ผมไม่อยากได้ความขัดแย้ง ในวันข้างหน้าเมื่อผมไม่เป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง อย่าไปคิดว่าผมจะเป็นอย่างอื่น ผมหมดหน้าที่ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ผมก็อยากได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ผมอยากได้นักการเมืองที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ เดินหน้าวางแผนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้กว้าง ๆ ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติรายละเอียดไม่ได้มีการบังคับอะไรกับใคร มีแต่หัวข้อว่าทำอะไรก็เพียงขอให้อยู่ในกรอบและขอให้ทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข พ้นจากความยากจนในทุก ๆ ด้าน ทั้งจนความรู้ จนที่ดิน ในปีหน้ามีเรื่องต้องทำอีกมาก เพราะถ้าเรายังทำแบบเดิมเราก็จะเป็นแบบเดิมคือการเอาเงินลงไปให้ลงไป เป็นมาตรการบรรเทาเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ยั่งยืน ถ้าจะให้ยั่งยืนต้องทำแบบที่ผมทำ ต้องมีการกำหนดเป้าหมาย ทิศทางในแต่ละกลุ่ม เพราะความต้องการของแต่ละกลุ่มแตกต่างกัน และต้องไม่เป็นการผูกขาดประชาชนต้องได้รับประโยชน์ที่ดีขึ้น ก็เป็นการคาดหวังของผม”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนคาดหวัง คือ 1.การลดความยากจน ลดความเดือดร้อน 2.การเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่ไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป ซึ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นไม่ได้ ตนประกาศไว้เลยสถานการณ์ถ้ายังมีความขัดแย้งสูงการเลือกตั้งได้หรือเปล่าตนไม่รู้ เพราะฉะนั้นอย่าทำให้มันเกิดขึ้น ตนไม่ได้เป็นคนทำ

“ถ้าอยากให้มีการเลือกตั้งก็ขอให้มีความสงบสุขเรียบร้อย ถ้าไม่สงบเลือกแล้ว ถ้าเลือกตั้งไปแล้วยังมีการตีกันอยู่ผมก็รับผิดชอบไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพียงแต่พูดปรามไว้สำหรับคนที่จะสร้างความวุ่นวาย ประชาชนเองก็ต้องดู ถ้าใครทำตัวแบบนี้ก็อย่าไปยุ่งหรือสนับสนุน ไม่เช่นนั้นก็จะผิดกันไปหมด ขอร้องอย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน มีเส้นทางไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยก็ไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทุกฝ่ายชื่นชมประเทศไทยว่ามีเสถียรภาพดี มีความสงบเรียบร้อยไม่มีความขัดแย้ง เรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง ขอร้องว่าอย่าเอาการเมืองมาเป็นทุกอย่างของประเทศไทย เพราะถ้าทำเช่นนั้นก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้ไม่มีเลิก เพราะทุกคนก็คาดหวังว่าจะเข้าสู่การเมือง ส่วนจะตีกันต่อไปอย่างไรตนก็ไม่สามารถตอบได้ วันข้างหน้าอีกพรรคหนึ่งได้อีกพรรคจะยอมรับได้หรือไม่ตนก็ไม่รู้ ตอบไม่ได้ เพราะปัญหาเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

“จำได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมาเคยเกิดเรื่องมาแล้วจาก 2 พรรคใหญ่ แล้วอนาคตข้างหน้าจะแก้ปัญหาอย่างไร ยังไม่มีใครบอกผมเลย แต่ทุกวันนี้กลับมาตีผม ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ วันนี้ท่านต้องแสดงออกว่าท่านจะไม่ทำหรือสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นมาอีก ขอร้องว่าอย่าพูดอย่างเดียวขอให้ทำด้วยแล้วประชาชนก็ต้องไปดู ไม่ใช่ว่ากลายมารุมตีผม ๆ ยังไม่รู้ว่ามาตีผมเรื่องอะไร ผมก็พูดกับทุกคน”นายกรัฐมนตรี กล่าว

เย้ยปชป.-พท.อุดมการณ์สู้ไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงการออกคำสั่งมาตรา 44 เพื่อขยายกรอบเวลาตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลา 30 วันในการรับรองการเป็นสมาชิกพรรค ว่า ตนไม่ได้สลายความเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง คนที่เป็นสมาชิกพรรคอยู่ก็สามารถมาลงใหม่ก็ได้ หากบอกว่ามีข้อแม้เรื่องระยะเวลา ก็ขอชี้แจงว่าระยะเวลาที่กำหนดให้เวลา 30 วันที่อย่างน้อยต้องมีสมาชิกพรรค 500 คน ทุกคนก็มาลงสมัครได้ แล้วที่เหลือจะไปกลัวอะไร

“ทุกคนก็สามารถมาลงสมัครเป็นสมาชิกได้ตลอด 4 ปี ไม่ใช่หรือ ถ้าคิดว่าสมาชิกเหล่านั้นยังอยู่กับคุณจริงๆ ก็ต้องมั่นใจว่าเขาจะอยู่กับคุณ แล้วที่ออกมาประกาศว่าทุกคนเกิดมาอยากตายไปกับประชาธิปไตยกับพรรคนี้พรรคนั้น แล้วจะไปกลัวอะไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ต่อข้อถามที่ว่า อาจเป็นเพราะกลัวว่าในช่วงที่มีช่องว่างนี้สมาชิกพรรคเดิมจะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเพราะตัวเองที่อุดมการณ์สู้เขาไม่ได้หรือเปล่า ที่บอกว่าตัวเองดีกว่ามีคนมาอยู่มากกว่า สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ ถ้าดีจริงสมาชิกพรรคเหล่านั้นก็ต้องอยู่ แล้ววันนี้สิ่งสำคัญตนไม่ได้ต้องการไปรีเซ็ตอะไร แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนขึ้นว่าคำว่าสมาชิกพรรคเป็นอย่างไร แม้ว่ากฎหมายฉบับใหญ่จะมีผลบังคับใช้แล้วและตนก็ไม่ได้ไปละเมิดหรือล้มกฎหมาย และไม่ต้องการไปแก้ไข พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะเขาต้องการหวังผลระยะยาว เราต้องหาวิธีการปฏิบัติเพื่อเดินไปสู่ตรงจุดที่ไม่มีปัญหาให้ได้ ระหว่างนี้เมื่อกฎหมายยังมีปัญหา ก็ต้องมาดูว่าระยะนี้ทำแบบนี้ได้หรือไม่แกะออกมาให้ได้ว่าคนที่จะเป็นสมาชิกพรรคก็ให้ยืนยัน มีการลงชื่อและมีหลักฐานให้เห็น

“ที่ผ่านมาหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้องไม่มีหลักฐานชัดเจนเพราะอยู่ที่พรรคทั้งหมด เพราะเราไม่ได้ให้เขาเก็บเงินจากสมาชิกพรรค รัฐบาลเป็นคนเก็บให้โดยการหักภาษี เมื่อคนถูกหักภาษียังไม่กาเลยว่าสนับสนุนพรรคไหน ดังนั้นต้องมีการเคลียร์เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพียงแค่นี้มันมีปัญหาอะไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

สำนักข่าววิหคนิวส์