นายกฯสั่งติดตามผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่ พร้อมหามาตรการรับมือ ขณะที่ “พาณิชย์” หวั่นกระทบส่งออกปีนี้วูบ 1.8 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของประเทศไปติดตามว่ากรณีสงครามการค้าสหรัฐและจีนจะมีผลกระทบกับประเทศไทยอย่างไรบ้าง และมาตรการที่ประเทศไทยควรจะดำเนินการ และขณะนี้ก็ยังไม่มีการกำหนดการประชุมเพื่อหารือเรื่องนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้กล่าวอะไรในที่ประชุม แต่ในช่วงสิ้นเดือนพ.ค.นี้กระทรวงพาณิชย์จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ ซึ่งเข้าใจว่าจะมีการหารือกันเรื่องนี้
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายสมคิด สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ เชิญนักลงทุนและผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และชิ้นส่วน มาหารือเบื้องต้นก่อน เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารอบใหม่มากที่สุด ก่อนที่จะประชุมหารือกับทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อกำหนดเป้าหมายส่งออกในวันที่ 31 พ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐและจีนรอบใหม่ จะทำให้การส่งออกสินค้าไทยปีนี้ลดลง 5,600-6,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.79-1.82 แสนล้านบาท) หรือคิดเป็น 2.2% ของมูลค่าส่งออกของไทย และจะทำให้การส่งออกไทยปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 8% หรือคิดเป็นมูลค่าส่งออกสินค้ารวม 272,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนรอบล่าสุด ซึ่งสหรัฐขึ้นภาษีสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 25% จะทำให้เศรษฐกิจโลกปีนี้ขยายตัวเพียง 3% จากเดิม 3.3-3.5% และจะทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวเหลือเพียง 2.2-4.6% ในปีนี้ หรือลดลงจากคาดการณ์เดิม 1%
Cr.brighttv
สำนักข่าววิหคนิวส์