จับลูกจ้างร้านยางชื่อดัง ก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้าง ยกตู้เชพไปตัดเอาเงินออกมาใช้ สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจสืบสวน สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ ติดตามจับกุมตัว ได้เงินสดของกลาง ให้การรับสารภาพติดหนี้จากการเล่นการพนันไก่ชน และการพนันฟุตบอล จึงลงมือก่อเหตุ ตำรวจทำการควบคุมตัวทำแผนดำเนินคดี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผกก.สภ.ช้างเผือก ประกอบด้วย พ.ต.ท.ชนินทร์ เคหะ รอง ผกก.สส.,พ.ต.ต.ณัฐพล เอกฉันท์ สว.สส.,ร.ต.อ.ณัฐนนท์ หมื่นกัน รอง สว.สส.ฯ,ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เครือทอง รอง สว.สส.ฯ,กับพวกได้ร่วมกันจับกุมตัวนายนภดล ใจคำ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 148 /1 หมู่ 12 ต.แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.641/2560 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ดำเนินคดีโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ลักทรัพย์โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกการกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อหลบหนี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกดำเนินคดีตามกฎหมาย และทำการควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดเกิดเหตุภายในร้านพงศ์โชตนาการยาง เลขที่ 128 ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อ.เมือง จว.เชียงใหม่
ทั้งนี้ก่อนการจับกุมเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุจาก นส.ฟองจันทร์ โป่งปันต๊ะ อายุ 29 ปี เป็นผู้รับมอบอำนาจจากนายฐิติรัฐ ชัยวงค์ เจ้าของร้านโชตนาการยาง ได้เข้าแจ้งความว่า ได้มีคนร้ายลักทรัพย์สินภายในร้านไปหลายราการ จากการ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คนร้ายรายนี้ได้ถอดขโมยเอาเครื่องเซฟเวอร์ที่บันทึกภาพกล้องวงจรปิดของทางร้านไปอีกด้วย จำนน 3 ตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนติดตามเส้นทางหลบหนีและเส้นทางก่อนเข้าไปทำการลักทรัพย์ พร้อมตำหนิรูปพรรณคนร้ายและทะเบียนรถที่คนร้ายใช้ มาเปรียบเทียบประวัติพนักงานพบว่ามีลักษณะตรงกับนายนพดล ใจคำ ซึ่งมีรูปพรรณและรถที่ใช้ในการก่อเหตุตรงกัน จึงได้ทำการขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาศาลได้ออกหมายจับที่ จ.641/2560 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2560 จึงได้ทำการจับกุมตัวนายนพดล ใจคำ ขณะกลับมาทำงานอยู่แผนกช่างไฟ ภายในร้านพงศ์โชตนาการยาง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนปากคำในเบื้องต้น นายนภดล ใจคำ ผู้ต้องหารายนี้ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ในคดีนี้มาก่อน และได้ให้คำประกอบคำรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริงโดยได้ก่อเหตุทำการปีนแนวรั้วกระแพงเข้ามาในร้าน ทำการหลบซ่อนตัวและตัดไฟฟ้า ก่อนยกเอาตู้เชฟบรรจุเงินสดและใบโฉนดที่ดินนำไปตัดที่บ้านแม่ยาย หมู่ 1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ เพื่อนำเงินออกมาใช้ ซึ่งมีเงินจำนวน 40,000 กว่าบาท จากนั้นผู้ต้องหาได้ พาไปชี้จุดที่นำเอาตู้เชฟ และเครื่องเชฟเวอร์จำนวน 3 ตัว ไปทิ้งน้ำแม่สา ที่บริเวณริมน้ำตกแม่สา บ้านป่าม่วง หมู่ 5 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ โดยทางเจ่าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้ลงงมค้นหาตู้เซพในน้ำตกแม่สา ตรงจุดที่ผู้ต้องหานำไปทิ้งแต่ไม่เจอ ก่อนที่นายนพดล ผู้ต้องหา จะพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาเงินที่ซ่อนไว้ที่บ้านแม่ใน หมู่ 12 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ ที่เหลืออยู่ จำนวน 34,160 บาท ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านพงศ์โชตนาการยาง ในเช้าวันนี้.
เบื้องต้นในชั้นการสอบสวนปากคำนายนภดล ใจคำ ผู้ต้องหาสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าตนเองติดหนี้นอกระบบ ประกอบกับชอบเล่นการพนันไก่ชน เล่นพนันบอล จึงคิดเอาเงินไปใช้หนี้ เห็นว่าที่ทำงานมีตู้เซฟคาดว่าจะมีเงินอยู่จำนวนมาก จึงเกิดความคิดที่จะขโมยและนำเงินไปใช้หนี้จึงลงมือก่อเหตุและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดังกล่าว.
cr: นิวัฒน์ ธาตุอินจันทร์
สำนักข่าววิหคนิวส์