“ปธ.นปช.” นัด “มวลชน” เคาท์ดาวน์ ไล่ “บิ๊กตู่”พ้น “นายกฯ 8 ปี” ถ้า ดื้ออยู่ต่อเป็น “นายกฯเถื่อน” ไม่ออก 24 ส.ค.บุก “ทำเนียบ” เย้ย อยากอยู่ยาว เขียน รธน.เอง ลั่น “ปชช.” ไม่ทน พร้อมสู้ กับคนดื้อด้าน ก่อความวุ่นวายประเทศ
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ฉลาดแต่ยึดอำนาจ กับรักษาอำนาจ แต่โง่กับการบริหารบ้านเมืองให้รอด เพราะฉะนั้นหลังเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค. จะเป็นวันสุดท้ายของพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าต้องการยื้ออยู่ต่อ ประชาชนต้องจัดการ กับผู้ปกครองเส็งเคร็งให้พ้นจากอำนาจ
ประธาน นปช. กล่าวว่า หลังรัฐประหารปี 57 พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาตั้งคนมาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อีก หวังจะอยู่ยาว ให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ มาเขียนให้ถูกใจ จึงกลายเป็นรัฐธรรมนูญ 60 โดยมาตรา 264 เขียนรับรองให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บริหารราชการแผ่นดิน อยู่ในวันก่อนวันประกาศ ใช้รัฐธรรมนูญ 60 เป็น ครม.ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 60
นายจตุพร กล่าวว่า แสดงถึงความต้องการจะอยู่ยาว ต่อไปนานๆ หลังจากเลือกตั้ง ก็ให้ ส.ว.ที่แต่งตั้งมาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย แล้วก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในปี 2562 สมความตั้งใจในเกมที่อยากอยู่ยาว แต่รัฐธรรมนูญ60 มาตรา 158 วรรค 4 ซึ่งเขียนกันเอง ระบุกันเองว่า นายกรัฐมนตรี จะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีไม่ได้
ประธาน นปช. กล่าวว่า ไม่ว่าจะดํารงตําแหน่ง ติดต่อกันหรือไม่ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ อยากเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ดิ้นให้ไปถามศาลรัฐธรรมนูญอีก ทั้งหมดนั้น เขียนกันเองรู้เรื่องกันเอง ยังหน้าด้านมาดิ้น อยู่เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก
นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี สร้างหนี้ถึง 10 ล้านล้านบาท ก่อให้เกิดหนี้ครัวเรือนมหาศาล แล้วยังออกนโยบายคนละครึ่งอีก ยังไม่พอยังเปิดทางให้ต่างชาติมาซื้อที่ดินอีก แบบนี้ประเทศชาติ , ประชาชนไม่หายนะอย่างนั้นหรือ และจะเกิดความสงบจบที่ลุงตู่ได้อย่างไร ทำไมเป็นคนที่ไม่ฉลาดแล้วอวดโง่ ด้วยการให้แก้ปัญหาสินค้าแพง โดยบอกว่าให้ประชาชนอดทนไปก่อน
“วันที่ 23 ส.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์จะพ้นนายกรัฐมนตรี และจะได้ไปสู่สุขคติ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญกำหนดไม่ให้เกิดทางตัน โดยให้ปลัดกระทรวง เข้าบริหารบ้านเมืองแทน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ไปหลังเที่ยงคืน จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีเถื่อนขึ้นมาทันที อยากชวนประชาชน ในคืนวันที่ 23 ส.ค.มาร่วมนับเคาท์ดาวน์ จนถึงเที่ยงคืนเพื่อส่ง พล.อ.ประยุทธ์ไปสู่คติ ออกจากนายกรัฐมนตรี ถ้ายังหน้าด้านไม่ไปอีก คนไทยจะตื่นขึ้นมาเอาเรื่องเหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา” นายจตุพร กล่าว
ประธาน นปช. กล่าวว่า กรณีจีนกับไต้หวันและสหรัฐน โยงมาถึงสัญญาอินโด-แปซิฟิก และสัญญาจัสแม็กของสหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาให้ไทย ร่วมทำสงครามกับศัตรูของสหรัฐ สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของคน ที่ไม่ฉลาดก่อไว้ทั้งสิ้น
นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนเดียว ที่มาทำงานแบบคนรับราชการ มาเช้ากลับเย็นตามเวลา หยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปต่างจังหวัดหน่วยรักษาความปลอดภัย ล้อมหน้าล้อมหลังมากมาย การทำงานจึงเป็นปัญหาของบ้านเมือง ดังนั้นจึงไม่มีทางอื่น วันที่ 23 ส.ค. ให้ลุกขึ้นมาจัดการ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ต่ออีก ยังผ่าน 8 ปีได้อีก แล้วไปต่ออีก 4 ปี เป็น 12 ปี ถ้าบริหารประเทศดี ใครก็ไม่ว่า แต่ที่ผ่านมาทำทุกอย่าง เงียบสงัดกันหมด และแนวทางประชาธิปไตย ด้วยวิธีแจกกล้วยนั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาชาติได้เลย
“ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่พ้นตำแหน่ง ในวันที่ 24 ส.ค. ก็กลายเป็นนายกรัฐมนตรีเถื่อน แต่อยู่ที่ประชาชนถ้าพร้อม พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไปจบกันที่ 23 ส.ค. ถ้าประชาชนไม่พร้อม พล.อ.ประยุทธ์ ก็อยู่ต่อไป เราจึงต้องมาร่วม กำหนดชะตากรรมด้วยตัวเราเอง ถ้าประชาชนยืนหยัด ต่อให้ 3 ป. หรือ 100 ป.ก็สู้ประชาชนไม่ได้ ผมคิดว่าไม่มีสนามใด ใหญ่กว่าสนามประชาชนอีกแล้ว แต่ถ้าประชาชนขี้คร้าน 3 ป.ก็ปกครองต่อไป ประเทศฉิบหายต่อไป” ประธาน นปช. กล่าว
//////////////////////