ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » #ปทส.เก็บDNAงาช้างเปรมชัยหาที่มา

#ปทส.เก็บDNAงาช้างเปรมชัยหาที่มา

15 February 2018
667   0

รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ตรวจสอบงาช้าง ของ “เปรมชัย” โดยวิธีสกัดเก็บดีเอ็นเอ คาด 3 สัปดาห์ทราบผลว่ามาจากที่ใด

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่าวันนี้ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ให้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบว่างาช้างที่ยึดมาจาก บ้านพักของ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาร่วมกันบุกรุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และล่าสัตว์ป่าสงวน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นงานช้างเอเชีย หรืองาช้างจากแอฟริกา ซึ่งทางกรมอุทยานฯได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบงาช้าง ว่าเป็นของเอเชีย หรือแอฟริกา ก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยการดูภายนอกประกอบกับการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งหากเป็นงาช้างแอฟริกา จะมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก แต่หากขนาดไม่ได้ใหญ่ผิดปกติ ก็ต้องมาตรวจสอบดีเอ็นเออีกครั้งว่า เป็นของช้างโซนประเภทใด ซึ่งในวันนี้จะมีการสกัดเก็บดีเอ็นเอ ที่บริเวณโคนของงาช้าง เพื่อนำกลับไปตรวจสอบภายในห้องแล็ป ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ถึงจะสามารถทราบผลได้

ส่วนการขออนุญาตครอบครองงาช้าง ครั้งล่าสุดที่มีการเปิดให้ผู้ที่ครอบครองงาช้างนำงาช้างมาลงทะเบียน ทราบว่ามีผู้นำงาช้างมาลงทะเบียนกว่า 4 หมื่นชิ้น โดยมีกองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานแห่งชาติฯ หรือ กองไซเตส ทำหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลไว้ ซึ่งจะนำผลดีเอ็นเอที่ตรวจได้จาก 4 คู่นี้ไปเทียบเคียงกับข้อมูลที่กองไซเตสอีกครั้งว่างาช้างดังกล่าวมีที่มาจากที่ไหนและถูกต้องหรือไม่ และหากผลการเทียบเคียงพบว่าเป็นงาช้างแอฟริกา ก็จะเข้าข่ายความผิดตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำงาช้าง 2 คู่ หรือ 4 กิ่ง ที่ยึดมาได้จากการเข้าตรวจค้น บ้านนายเปรมชัย กรรณสูตร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ซึ่งมีมูลค่ารวมกันไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท มาตรวจพิสูจน์และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อตรวจยืนยันที่มา โดยในการตรวจพิสูจน์เจ้าหน้าที่ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ โดยขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยาน ได้ทำการชั่งน้ำหนักงาช้างและวัดขนาด ก่อนขูดเอาเนื้อเยื่อส่วนโคนของงาช้าง เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยอมรับว่า งาช้างทั้ง2คู่ ค่อยข้างมีความสมบูรณ์สวยงาม มีขนาดใหญ่ แต่ยังไม่สามารถบอกอายุ อีกทั้งงาช้างดังกล่าวถูกตัดแต่งกิ่งและเคลือบน้ำยาเพื่อให้งามีเงางามคาดว่าใช้เวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ถึงจะทราบว่าเป็นงาช้างเอเชียหรือแอฟริกา

ด้าน นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช กล่าวว่า หากผลการตรวจสอบพบว่าเป็นงาช้างเอเชียจะต้องตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตครอบครองตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 หรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายหากไม่ขอครอบครองต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่หากเป็นงาช้างแอฟริกา จะเข้าข่ายความผิดตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์หรือ ไซเตส ยอมรับว่า นายเปรมชัย ได้ยื่นขอครอบครองงาช้างทั้ง 2คู่แล้ว เมื่อครั้งที่มีการเปิดให้ผู้ครอบครองงาช้างนำงาช้างมาลงทะเบียน แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าการตรวจพิสูจน์งาช้างด้วย

Cr.innnews

สำนักข่าววิหคนิวส์