หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ ลุ้นกับฤกษ์มงคลอยู่นาน ในที่สุดคู่รักซุปตาร์ “พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน” และ “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” ก็ได้ควงแขนกันอัปเดตข่าวดีต่อหน้าสื่อ กลางงาน “Supersports New Concept Store in Central World”
โดยทั้งคู่เผยว่า ตอนนี้ได้กำหนดวันวิวาห์อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งก็คือวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 เป็นฤกษ์ที่พระผู้ใหญ่ที่นับถือช่วยดูให้
ส่วนสถานที่จัดงานนั้น เป็นโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โดยตั้งใจจะให้รูปแบบงานออกมาเรียบง่ายที่สุด และมีแค่พิธีเช้ากับเที่ยงเท่านั้น เพราะจะไม่การจัดงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้เนื่องจากไม่ใช่แนวที่ทั้งคู่ถนัด
วันนี้มีข่าวดีมาบอกทุกคน ?
พุฒ – “ตามที่สัญญาไว้ครับว่าวันนี้จะมาบอกว่าฤกษ์แต่งงานของเราคือเมื่อไหร่ ซึ่งก็คือวันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นช่วงปลายปีนี้ครับ ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เป็นงานพิธีทั้งหมั้นและแต่งในวันเดียวกันเลย”
ฤกษ์นี้ได้มายังไง ?
จุ๋ย – “ได้มาจากพระผู้ใหญ่ที่เราสองคนนับถือท่านช่วยดูให้ค่ะ เป็นฤกษ์เดียวที่ได้มาเลย ซึ่งเอาจริงๆ เราได้ฤกษ์มานานแล้วนะคะ แต่ที่ก่อนหน้านี้ยังบอกกับพี่ๆ นักข่าวไม่ได้ก็เพราะ เขาจะต้องมีฤกษ์บอกด้วยอีกทีหนึ่ง (หัวเราะ)”
พุฒ – “หลายคนอาจสงสัยก่อนหน้านี้ว่าทำไมเรายังไม่บอกสักที จริงๆ เราก็อยากจะบอกนะครับ แค่เราอาจจะต้องถือเคล็ดสักนิดหนึ่ง (ยิ้ม)”
แบบนี้วันที่แถลงแต่งงานจะต้องฤกษ์กำหนดด้วยไหม ?
จุ๋ย – “ถ้าฤกษ์แถลงคงไม่ต้องมีแล้วค่ะ แต่อาจจะเป็นหลังพิธีเสร็จแล้วชวนพี่ๆ นักข่าวมาร่วมงานอีกรอบหนึ่งมากกว่า”
ตอนนี้เตรียมงานกันไปถึงไหนแล้ว ?
พุฒ – “เอาจริงๆ เราก็ยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเยอะขนาดนั้นนะครับ จะมีก็แค่การคุยกันเรื่อยๆ เตรียมงานคร่าวๆ มากกว่า”
จุ๋ย – “ถ้าถามว่าคืบหน้ากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว เอ่อ…ต้องบอกก่อนว่างานของเราคืองานเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวา ดังนั้นเราเลยเตรียมงานกันเรื่อยๆ และก็คิดว่าน่าจะทันนะคะ เพราะเรื่องชุดต่างๆ เราก็ได้คุยกับพี่ที่เรารักและเคารพให้ช่วยจัดการแล้ว วัดตัวเรียบร้อยแล้ว ชุดก็เมดอินไทยแลนด์เลยค่ะ แค่พิธีไทยกับพิธีธรรมดาเฉยๆ เพราะงานมีแค่เช้าเที่ยงก็จบเลย (ยิ้ม)”
แสดงว่าไม่มีงานเลี้ยงฉลองช่วงเย็น ?
พุฒ – “ไม่มีปาร์ตี้กลางคืนครับ ก็อย่างที่แจ้งไปว่าเราอยากให้งานออกมาง่ายๆ สบายๆ มากกว่า อย่างพิธีเช้าก็มีแขกเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพ ส่วนช่วงเที่ยงก็จะเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ รวมถึงสื่อมวลชนที่เราจะเชิญมาร่วมงานครับ”
ทำไมเราถึงเลือกจัดงานแบบไม่มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ?
จุ๋ย – “เราสองคนไม่ใช่สายปาร์ตี้ก็เลยไม่ถนัดกับตรงนี้มากกว่า อีกอย่างเราอยากให้งานเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามประเพณีไทยด้วยค่ะ”
ได้มีการสู่ขอกันอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง ?
พุฒ – “คุณพ่อคุณแม่ผม ได้เข้าไปเจอกับคุณพ่อคุณแม่จุ๋ยแล้วครับ พวกท่านก็ได้คุยกันบ้างแล้ว แต่ว่าเร็วๆ นี้อาจจะมีคุยกันอย่างเป็นทางการแน่นอน เพราะทุกอย่างก็มีพิธีการมีขั้นตอนของแต่ละพิธีเหมือนกันหมด”
แล้วแบบนี้วันที่เราจะคุกเข่าขอจุ๋ยแต่งงานจะต้องมีฤกษ์ด้วยไหม ?
พุฒ – “อันนั้นไม่ต้องมีฤกษ์ครับ ดูตามฟีล ดูตามความรู้สึก และสถานการณ์ครับผม”
ก็ต้องรอดูเซอร์ไพรส์ที่จะตามมาสำหรับการขอแต่งงาน ?
จุ๋ย – “มันจะไม่เซอร์ไพรส์ก็ที่ถามนี่แหละ (หัวเราะ)
พุฒ – “ถ้ามีเดี๋ยวพี่ๆ ก็คงเห็นเองนะครับ (หัวเราะ)”
เราคาดหวังไหมกับการคุกเข่าขอแต่งงานของพุฒ ?
จุ๋ย – “ไม่หวังเลย เพราะเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าเราทั้งคู่เป็นอะไรที่เรียบง่าย และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือให้ผู้ใหญ่รับทราบแค่นั้นเราก็พอใจที่สุดแล้ว”
กำหนดธีมงานไว้เรียบร้อยแล้วหรือยัง ?
จุ๋ย – “จะเป็นการกำหนดสีมากกว่าค่ะ คือมีสีขาว เทา น้ำเงิน”
ส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจแต่งงานปีนี้เพราะอยากจะมีน้องด้วยไหม ?
พุฒ – “ถ้าเอาตรงๆ ผมเองก็เป็นคนชอบเด็ก และจุ๋ยก็ชอบเด็กเหมือนกัน ถ้าหากวันหนึ่งเราได้แต่งงานกันแล้ว เราก็อยากจะมีลูกเลยถ้าหากเป็นไปได้”
แสดงว่าถ้าแต่งงานปุ๊ปก็เปิดอู่ทันที ?
พุฒ – “อย่างที่บอกบางคนอยากมีมาก แต่พอถึงเวลาจริงๆ น้องก็ไม่มา ผิดกับบางคนที่อาจจะยังไม่ถึงเวลาแต่น้องก็มาแล้ว เราก็เลยไม่รู้ว่าเราจะอยู่ในโหมดไหน”
ตอนนี้เราอยากให้เขามาไหม ?
พุฒ – “ตอนนี้อย่าเพิ่งสิครับ (หัวเราะ) เอาไว้เป็นไปตามจังหวะดีกว่า”
เราวางแผนครอบครัวไปพร้อมกับงานแต่งเลยไหม หรือว่าให้ผ่านงานแต่งไปก่อน ?
จุ๋ย – “จริงๆ เราก็คุยกันนะคะว่าจะเป็นยังไง แต่ก็อย่างที่พุฒบอกเรื่องร่างกายเราไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะโอเคหรือเปล่า ถ้าหากเปิดปุ๊ปเขามาปั๊ปก็ถือว่าโชคดีมากๆ”
หลังจากนี้จุ๋ยจะต้องเคลียร์งานรอเลยไหม ?
จุ๋ย – “ตอนแรกจุ๋ยก็ตั้งใจจะเคลียร์งานให้ละครจบภายในต้นปีนี้ แต่ว่าละครดันเลยเถิดไป หนูก็เลยไว้ผมยาวไม่ได้สักที ต้องเป็นผมทรงนี้แน่ๆ เลย”
ตื่นเต้นไหมใกล้จะถึงวันแต่งงานแล้ว ?
พุฒ – “ตื่นเต้นนะครับ เพราะมันคือครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต และเราก็จะได้ประกาศว่าเรามีชีวิตคู่ เราได้ใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิต แน่นอนครับยังไงเราก็ต้องมีความตื่นเต้น แม้อาจจะยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าใกล้ๆ ถึงวันต้องตื่นเต้นกว่านี้แน่นอน”
จุ๋ย – “จุ๋ยตื่นเต้นวันนี้เลยค่ะ วันที่จะต้องบอกฤกษ์แต่งงาน เพราะมันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ทุกคนจะได้รู้แล้วว่าวันที่เราแต่งงานคือวันไหน และหลังจากนี้เราก็จะได้เตรียมพร้อมต่อไปตามประเพณี”
ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแล้วหรือยัง ?
จุ๋ย – “เราเป็นคู่ที่ไม่มีพรีเวดดิ้งค่ะ ทุกๆ ที่คือพรีเวดดิ้ง เพราะงานพวกเราเรียบง่ายมาก อาจจะเรียบง่ายจนพี่ๆ ตกใจ”
สินสอดเยอะไหมสำหรับคู่เรา ?
พุฒ – “ก็ตามฤกษ์และตามความเหมาะสมครับ (ยิ้ม)”
เตรียมเรือนหอแล้วหรือยัง ?
พุฒ – ” ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการออกแบบครับ เป็นเรือนหอย่านวัชรพล แต่ไม่น่าจะเสร็จทันหลังแต่งงาน เพราะการสร้างบ้านรายละเอียดค่อนข้างเยอะ”
คู่เราฝ่าฟันมรสุมกันมานาน พอถึงวันนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ?
จุ๋ย – “มันเป็นความรักจริงๆ ที่เราพร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข เวลามีปัญหาอะไรเราก็พร้อมที่จะฝ่าฟันมันให้ได้ ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา เราไม่ได้มีแต่ความสุขอย่างเดียว เราต้องมีความทุกข์บ้างให้มันสมดุล ซึ่งความทุกข์นั่นแหละค่ะที่ทำให้เราได้เห็นกันมากขึ้น”
รู้สึกยังไงบ้างที่ต้องเปลี่ยนจากคำว่าแฟนกลายเป็นคำว่าคู่ชีวิต ?
พุฒ – ” ก็คงไม่แตกต่างไปจากเดิม เพราะทุกวันนี้เขาก็คือคู่ชีวิตของเราอยู่แล้ว เวลามีปัญหาก็คุยกัน เวลาต้องการกำลังใจก็สลับกันให้กำลังใจ”
จุ๋ย – “จุ๋ยคิดมาตลอด และหวังว่าพุฒจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเราตั้งแต่แรก เวลาที่เราได้ใช้ชีวิตด้วยกันทุกวันมันก็เติมเต็มคำว่าใช่ขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะเขาจะมีนิสัยความน่ารักที่เราและคนรอบข้างทุกคนต่างก็รักเขา ซึ่งสิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ทำให้เราสบายใจ และรู้สึกได้ว่าเขาน่าจะเป็นคู่ชีวิตที่ดีในอนาคตสำหรับเรา”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook
สำนักข่าววิหคนิวส์