วันที่ 30 มีนาคม 2564 – นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่ข้อความบันทึกในเหตุการณ์ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ระบุว่า บันทึกขนาดสั้นจากห้องพิจารณาคดี สมยศ พฤกษาเกษมสุข แถลงว่า การไม่ให้ประกันตัวเป็นอุปสรรคในการต่อสู้คดีและไม่เป็นธรรม เพราะท้ายที่สุดแล้วต่อให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ระหว่างต่อสู้คดีตนเองก็คงต้องติดคุกไปแบบนี้เรื่อย ๆ ขอให้ศาลมอบโทษประหารชีวิตให้เพื่อยุติปัญหา เขาพร้อมพลีชีพสังเวยความไม่ยุติธรรม
ไมค์ฯ (ภาณุพงศ์ จาดนอก) ร้องไห้น้ำตาไหล เพราะมันคับแค้นจุกแน่นอยู่ในอกถึงความไม่ยุติธรรม ไมค์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชนิดที่แม่ของเขาเองก็ยังแปลกใจ “มันไม่เป็นธรรมกับเราเลยนะพี่ ไมค์ไม่ได้กลัว จะติดก็ติดไป แต่อยากได้เพียงความยุติธรรม แค่สิทธิในการประกันตัวเรายังไม่ได้ เราจะได้ความยุติธรรมจริง ๆ หรอพี่”
พี่รู้ไหม ไมค์ท่องบทกวีแปลของจิตร ภูมิศักดิ์ทุกวัน “เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์ สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์ แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน”
เพนกวิน (พริษฐ์ ชิวารักษ์) เข้ามาในห้องพิจารณา ร่างกายซูบผอมลงไปเยอะ อิดโรยเต็มที ใบหน้าซีดขาว แขนข้างซ้ายของเขามีสายระโรงระรางเต็มไปหมด ใช่ มันคือสายน้ำเกลือ แขนของเขาถูกเจาะเพื่อใส่น้ำเกลือลงไป เขาไม่มีเรี่ยวแรงจะพูดจาสื่อสารเพราะอดอาหารประท้วงทวงคืนสิทธิขั้นพื้นฐาน ในการประกันตัวมาแล้วกว่า 14 วัน
รุ้ง ปนัสยา กล่าวแถลงด้วยน้ำตาสรุปความได้ว่า หนูเป็นเพียงแค่นักศึกษา อายุแค่ 22 ปี หนูฝันถึงสังคมและอนาคตที่ดีกว่า การที่หนูออกมาใช้สิทธิเสรีภาพเคลื่อนไหวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหนูผิดอะไร หนูกับเพื่อนอีกหลายคนไม่ได้ประกันตัว พวกเราถูกบังคับไม่ให้มีโอกาสนั้น หนูกลัวค่ะ หนูกลัวว่าเพื่อนหนูจะเป็นอะไรไป หนูบอกเพนกวินว่า หนูกลัวมันตาย แต่เพนกวินตอบว่า ถ้าจะตายก็ให้ตายไป หนูคิดมาตลอดว่า “เราสู้เพื่ออยู่ ไม่ได้สู้เพื่อตาย แต่ถ้าจะมีใครตาย ก็ขอให้ตายเพื่อคนที่ยังอยู่”
และวันนี้หากไม่ได้รับสิทธิประกันตัวอีก จะขอประกาศอดอาหารด้วย โดยจะเริ่มจากการรับประทานวันละมื้อ และลดลงเหลือรับประทานแค่น้ำ นม และสารอาหาร “ขอให้การตายของเราเป็นสายธารนำความหวังสู่สังคม”
ผมนั่งเงียบฟังเสียงรุ้งแถลง ก้มหน้าก้มตาไม่ได้หันมองใคร น้ำตามันไหลออกมาแบบกลั้นไม่อยู่ นับเป็นครั้งที่สองที่ผมมีน้ำตาในห้องพิจารณา
แด่ทุก ๆ คนที่ถูกจองจำกักขัง ผมรู้ว่าน้ำตาที่ไหลในวันนี้ มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความสยบยอม แต่เป็นน้ำตาแห่งการต่อสู้เย้ยหยัน ผมขอให้น้ำตาทุกหยดที่หยดลงบนพื้น มันกัดกร่อนทำลายความอยุติธรรมในประเทศนี้ให้สิ้นซากไป
ผมรู้ว่าพวกคุณเจ็บและเหนื่อยมามาก ผมเข้าใจ ไม่เรียกร้องสิ่งใดๆ เพราะสิ่งที่พวกคุณต้องเผชิญมันหนักหนาสาหัสเหลือเกิน ผมจะเคารพทุกๆการตัดสินใจของพวกคุณ ผมพร้อมที่จะโอบอุ้มทุกสิ่งอย่าง ผมหวังว่าเราจะได้เจอกัน “ข้างนอก”