2 ส.ค.60 นายประพันธุ์ คูณมี นักกฎหมาย ได้เขียนบทความวิพากษ์ ความเห็นต่อการแถลงการณ์ด้วยวาจาของ นส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า
1.เป็นการอ่านเอกสารคำแถลงที่ทนายความหรือทีมงานร่างให้เป็นหนังสือ มิใช่การแถลงด้วยวาจาแต่อย่างใด
2. ผู้แถลงมีเจตนาและเป้าหมายแถลงต่อประชาชนที่เป็นฐานคะแนนนิยมทางการเมืองของตน มากกว่าประสงค์แถลงต่อศาลเพื่อเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่า คดีนี้จำเลยควรชนะคดี ศาลควรพิพากษายกฟ้องโจทก์ ด้วยเหตุผลอย่างไร
3. คำแถลงเป็นไปในลักษณะออดอ้อน โอดครวญ ค่อนแคะแขวะคนอื่นโดยเฉพาะกับ ปปช.คสช.และนายกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มากกว่าการแถลงปิดคดี ถือเป็นการแถลงที่ไม่เหมาะสม พาดพิงบุคคลภายนอกโดยไม่เป็นธรรมและน่ารังเกียจ
4. มีลักษณะหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นหรือละเมิดศาล โดยเฉพาะการแถลงลักษณะอบรมสอนศาลให้ตัดสินคดีให้เป็นประโยชน์กับตน อย่าฟังคำสั่ง คสช. ส่อพฤติกรรมที่ไม่เคารพศาลและกระบวนการยุติธรรม
5. อ้างแต่ว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม จาก ปปช. จากการดำเนินการของรัฐในการเรียกให้รับผิดต่อความเสียหาย นโยบายจำนำข้าวดีวิเศษ แต่ไม่มีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายใดมาหักล้างหายนะที่เกิดขึ้นหลายแสนล้าน ยังดื้อรั้นยืนกระต่ายขาเดียวว่าตนไม่ผิด ยิ่งเจือสมว่าจำเลยปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตและก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงแก่รัฐ
6. หลายเรื่องหลายประเด็นไม่เป็นความจริง เช่นอ้างว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจยุติโครงการจำนำข้าวที่เสียหายและทุจริต หรืออ้างว่า ปปช. สตง.ไม่มีหน้าที่ขอให้ทบทวนยกเลิก สถาบันอื่นไม่เกี่ยวข้อง ทั้งๆที่ตนมีอำนาจตามกฎหมาย และหน่วยอิสระที่ตรวจสอบ มีหน้าที่เสนอต่อรัฐบาล
7. รัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามให้รัฐบาลเสนอนโยบายสาธารณะ เพื่อแก้ปัญหาแก่ประชาชน แต่ก็ไม่อนุญาตให้เสนอนโยบายที่ก่อความเสียหายแก่รัฐและประชาชน และการอ้างว่าการจำนำข้าวอย่างที่ตนทำ รัฐบาลอื่นก็ทำแบบนี้มา30ปีแล้ว ถือเป็นการแถลงเท็จ เพราะไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำแบบจำเลย
8. คำแถลงด้วยวาจา นอกจากไม่มีอะไรใหม่จากที่เคยแถลงต่อสภา ซึ่งถูกสภานิติบัญญัติถอดถอนด้วยคะแนน190:18 คงมีเพียงคำออดอ้อนรำพึงรำพัน ค่อนแคะแขวะคนอื่นเท่านั้นที่เป็นเรื่องใหม่ อันไม่เป็นสาระแก่การพิจารณาคดี
9. การใช้มวลชนมาเป็นกองเชียร์ หรือหลอกผู้หลักผู้ใหญ่ คนสำคัญให้มาเชียร์ตนโดยหวังผลทางคดีนั้น หลอกคนและทำได้เพียงครั้งเดียวในคดีซุกหุ้นเท่านั้น จะใช้มุกเดิมๆอีกต่อไปคงไร้ผล มวลชนเข็ดและคนรู้ทันแล้วครับ”
สำนักข่าววิหคนิวส์