ประยุทธ์ชี้ทหารปฏิวัติเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่อยากทำ-รัฐบาลแข็งแรงด้วยใจ ไม่ใช่ทุ่มซื้ออาวุธ
ตรงประเด็น – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “ปฏิรูปยั่งยืน พลิกฟื้นประเทศไทย” ในงานบางกอกโพสต์ ฟอรั่ม 2017 ตอนหนึ่งว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เริ่มจาก 2560 ถึง 2579 ซึ่ง 3 ปีแรกเมื่อ คสช.เข้ามานั้นยังไม่นับ เพราะเราใช้เวลาสร้างความสงบเรียบร้อย ทำให้บ้านเมืองสงบสุข ไม่ใช่จะอยู่ต่อไปอีก 20 ปี ถ้าอย่างนั้น ก็คงไม่ต้องตั้งคนขึ้นมาทำงาน และต่อไปนี้จะเป็นเรื่องของกลไกประชาธิปไตย ยืนยันว่าไม่มีการสืบทอดอำนาจ และหากตนจะเล่นการเมือง ก็ต้องเป็นนักการเมือง แม้จะมีคนเชียร์ทั้งประเทศ ตนก็เป็นนายกฯต่อไม่ได้
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามคนในห้องว่า มีใครอยากให้เป็นนายกฯต่อหรือไม่ ก่อนกล่าวว่า มีคนให้ทำงานแค่ 3 คน ก็จะทำ แม้พลโพลจะตกต่ำเพียงใด ก็จะทำงานต่อไป และที่ผ่านมาผลโพลก็ตกต่ำลงทุกที ซึ่งไม่รู้ว่าไปถามใคร และอาจจะอยู่ที่คำถามว่า ต้องการให้ต่ำหรือสูงขึ้น แต่ตนจะทำงานตามวาระที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายให้มีประสิทธิภาพ ต่างจากที่ผ่านมา ที่ผู้แทนฯคิดโครงการ และงบประมาณโดยหวังผลทางการเมือง วันนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปขึ้นมาขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ มีวาระการทำงาน 5 ปี ไม่ได้แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปนอกยุทธศาสตร์ที่ได้เขียนไว้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการตั้ง ป.ย.ป. ซึ่งหลายคนบอกว่าย่อมาจาก ‘ประยุทธ์อยู่ต่อไป’ ทั้งนี้ ไม่ใช่การตั้งเพื่อให้เสียเวลา เพราะทุกคณะกรรมการได้มีการทำงานอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงขอเพียงความไว้วางใจ ลดความหวาดระแวง ช่วยกันขยายความในเรื่องดี เพื่อเป็นอนาคตแก่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ต่างประเทศที่เดินทางเข้าพบตนได้บอกว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นไปอย่างที่ปรากฏในสื่อเลย โดยตนบอกกลับไปว่ารัฐบาลกำลังทำงานในหลายด้านโดยมียุทธศาสตร์ชาติด้วย ซึ่งต่างชาติต่างให้การสนับสนุนและขอให้ประสบความสำเร็จ จนเป็นแบบอย่างแก่ประเทศอื่นด้วย
“เรื่องนี้ไม่ได้โม้ เพราะมีพยานอยู่ เราต้องการเป็นมหาอำนาจที่ไม่ใช่มหาอำนาจทางอาวุธ ต้องไม่ใช่รัฐบาลที่ทุ่มเงินซื้ออาวุธ แต่ต้องแข็งแรงด้วยใจ และขออย่าได้รังเกียจทหารมากนัก เพราะทหารได้ช่วยเหลืออุทกภัยด้วย ไม่ใช่เตรียมทหารเพื่อทำปฏิวัติ เพราะถ้าจะทำตอนไหนก็ทำได้ แต่ไม่อยากทำ”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยืนยันว่ามีคนต้องการเข้ามาช่วยงานรัฐบาลเป็นจำนวนมาก แต่ติดอยู่ที่ว่าบางคนนั้น ไม่สะดวกเนื่องจากประกอบธุรกิจ จึงหวั่นว่าจะกระทบต่อธุรกิจตัวเอง จึงขอเพียงช่วยงานรัฐบาลอยู่เบื้องหลัง ไม่ขอออกหน้า สำหรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นเพียงการวางกรอบที่รัฐบาลจะต้องเดินตาม ทั้งนี้หาก 5 ปีแรกเดินหน้าได้อย่างสะดวก ในอีก 20 ปี ก็จะไม่มีปัญหาอะไร และขอคนไทยอย่าดูถูกตัวเองว่า เราจะเดินหน้าไปยังไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องร่วมมือกัน
สำนักข่าววิหคนิวส์