ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #”ประสาร” เย้ย “ปู” กลืนน้ำลายหนีศาล หมดความน่าเชื่อถือ

#”ประสาร” เย้ย “ปู” กลืนน้ำลายหนีศาล หมดความน่าเชื่อถือ

27 August 2017
794   0

         อดีตแกนนำ40สว. มอง “ยิ่งลักษณ์” หนีคดี ทำ “บุญทรง” และพวกช้ำเจอลวงเป็นหนังหน้าไฟ สะเทือนสถานะพท. นายหญิงกลืนน้ำลายหมดมนต์ขลังความน่าเชื่อถือ เย้ยเอาน้ำยาอะไรไปปั่นหัวเสื้อแดง ดักตั้งรบ.ผลัดถิ่นไม่ได้ เพราะโกงมีหลักฐาน 

 
      

       วันนี้ (27ส.ค.) mgr online – นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสปช.และแกนนำกลุ่ม40สว. กล่าวว่าการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีศาลไม่มาฟังคำพิพากษาตามนัดหมายเมื่อ 25 สค.60 จะมีผลอย่างสำคัญ คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และพวก ซึ่งรู้สึกชอกช้ำที่เป็นหนังหน้าไฟตลอดมา ซ้ำถูกลวงให้อยู่สู้เคียงข้างนาย ขณะนี้พวกเขาอยู่ในสภาพยากที่จะได้รับการประกันตัว ส่วนกรณีที่ลือกันว่าสองอดีตนายกผนวกกับข้าเก่าจะไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หรือจะอาศัยเงื่อนไขครั้งนี้ไปเคลื่อนไหวทางสากลว่าคุณยิ่งลักษณ์ถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมไทยนั้น จะไม่มีใครเชื่อเพราะทุจริตจำนำข้าวมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เผยแพร่ไปทั่วโลก

       

       นายประสาร กล่าวต่อว่า คดีที่ศาลตัดสินจำคุกบุญทรงกับพวก เมื่อ 25 สค.60 นั้น ไม่เหลือพื้นที่แห่งหลักฐานใดๆที่จำเลยจะนำมาใช้ต่อสู้ทางคดีได้ โกงก็คือโกง จะเปลี่ยนโกงเป็นสุจริตไม่ได้ คำตอบของนายบุญทรงที่พูดกับนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ ว่า”กูพูดไม่ได้”นั้น คือการสารภาพโดยนัยว่าโกงใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้ว่าศาลจะตัดสินเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ มีแต่จำคุกสถานเดียว และสิทธิในการอุทธรณ์ก็ยังสุ่มเสี่ยงเพราะ พรบ.พิจารณาวิธีความอาญาฯฉบับใหม่ที่ให้สิทธิอุทธรณ์ยังไม่ประกาศใช้ หนีคุกจึงเป็นทางเลือก

       

       ทั้งนี้ การหนีศาลครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์สั่นสะเทือนสถานะของพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้ คนของพรรคเพื่อไทยพากันยกย่องเชิดชูให้คุณยิ่งลักษณ์เปรียบเหมือนวีรสตรีแห่งประชาธิปไตยที่ยืนหยัดต่อสู้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างทรนงองอาจเทียบได้กับ อองซาน ซูจี แห่งเมียนมาร์ แต่วันนี้กลับมาตระบัดสัตย์หนีศาลอย่างสิ้นศักดิศรี ทำให้วิมานแห่งความศรัทธาสลายสิ้น พี่ชายเป็นนักโทษหนีอาญาแผ่นดินไปคนหนึ่งแล้ว น้องสาวก้าวเดินตามรอยเท้าพี่ชายไปอย่างหมดรูป ต่อแต่นี้จะเอาน้ำยาอะไรไปปลุกเร้าพลังสู้รบของคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยในเมื่อนายใหญ่คนที่สองหมดมนต์ขลังแห่งความน่าเชื่อถืออย่างนี้ 

สำนักข่าววิหคนิวส์