วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2561 ไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสบทความของ สิริอัญญา ระบุว่า ประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น คือ ค่าครองชีพของประชาชนอยู่ในช่วงขาขึ้น ค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจทั้งหมดอยู่ในช่วงขาขึ้น ดังนั้น เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายที่สะท้อนถึงความเดือนร้อนจึงกึกก้องทั้งบ้านทั้งเมือง และแผ่กระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า
ส่วนขาลงนั้นคงมีอยู่อย่างเดียว คือรายได้ของประชาชนลดลง ไม่ว่าจะเป็นราคาสินค้าเกษตร หรือรายได้อื่นๆ ที่เป็นผลจากการทำมาหากินฝืดเคืองทั่วทุกหัวระแหง
ตัวเลขความเติบโตทั้งหลาย ถูกเน้นย้ำไปอีกทางหนึ่ง คือ ในอัตราที่เจริญเติบโต แต่ปกปิดบิดเบือนเสียอีกทางหนึ่ง คือ ความเติบโตทั้งหมดนั้นเป็นความเติบโตของกิจการเจ้าสัวไม่กี่คน ในขณะที่สภาพหดตัวต่ำเตี้ยถดถอยเกิดขึ้นทั่วประเทศ
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจอันใดที่เกิดอาการสวนทางกัน ระหว่างคนมีอำนาจกับราษฎร์ พวกหนึ่งพยายามกรอกหูประชาชนว่าทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี ดัชนีทุกตัวดีหมด แต่อีกพวกหนึ่งซึ่งเป็นประชาชนและภาคธุรกิจเกือบทั้งหมดของประเทศร้องโวยวายกันสนั่นบ้านสนั่นเมืองว่าไม่ไหวแล้ว เจ๊งแล้ว
เสียงสองกระแสที่สวนทางกันไม่มีทางที่จะลงเอยกันได้ เพราะต้นเสียงและเสียงที่แผ่ขยายไปก็ยังสวนทางกันอยู่อย่างนั้น โดยไม่มีการแก้ไขใดๆ ดังนั้นในขณะที่พูดกันว่ามีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น อีกกระแสหนึ่งที่สวนทางกันก็คือฉิบหายมากขึ้น หมดเนื้อหมดตัวมากขึ้น
แต่มาถึงวันนี้ ดูเหมือนว่าปลายเสียงของทั้งสองข้างเริ่มจะมาบรรจบกันที่จุดหนึ่งแล้ว คือ ต้นเหตุของความเดือดร้อนส่วนใหญ่นั้นมาจากราคาน้ำมันแพง ราคาน้ำมันแพง เมื่อทั้งสองอย่างนี้แพงเสียแล้ว บรรดาการผลิต การค้า การให้บริการทั้งสิ้นทั้งปวงก็ต้องแพงตามไปด้วย
เมื่อต้นน้ำแพง กลางน้ำ และปลายน้ำก็ต้องแพง ในขณะที่รายได้ของประชาชนไม่ได้เพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่ก็ลดลงด้วย เพราะการทำมาหากินทุกภาคส่วนฝืดเคือง และลดน้องถอยลง กิจการร้านค้าต่าง ๆ แทบจะโรยร้างไปตาม ๆ กัน
ทว่าแม้ว่าปลายเสียงดังกล่าวจะสอดคล้องต้องกันว่า น้ำมันและแก๊สเป็นต้นเหตุของความเดือดร้อนทั้งหลาย แต่กลับอ้างว่าการที่ราคาน้ำมันและแก๊สแพงนั้นเป็นไปตามภาวะตลาดโลก ซึ่งฝ่ายที่เดือดร้อนเสียหายไม่มีวันเชื่อและไม่มีวันเห็นด้วยโดยเด็ดขาด
จะเห็นด้วยหรือจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คนไทยทั้งประเทศต้องการที่จะฟังว่า ผู้มีอำนาจจะมีความคิดพยายามใด ๆ ที่จะแก้ไขปัญหา เพื่อทำให้ราคาน้ำมันและแก๊สลดลงบ้างหรือไม่
เพราะที่พูดกันมาทั้งหมดนั้น และตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่จะแสดงจุดยืนหรือท่าทีว่าจะพยายามจะแก้ไขปัญหาน้ำมันและแก๊สเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของประชาชน ไม่มีสักครั้งเดียวจริงๆ มีแต่จะพูดแก้ตัว หรือปกป้อง หรือเพื่อจูงใจให้เห็นด้วยกับราคาที่สูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
ทั้ง ๆ ที่รู้ ทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่เต็มตาว่าราคาน้ำมันและแก๊สของประเทศไทยนั้นแพงกว่าประเทศใด ๆ ในอาเซียน และแพงมากที่สุดในลำดับ 6 ของโลก ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยอุดมด้วยแหล่งทรัพยากรแก๊สและน้ำมัน ซึ่งขุดเจาะกันมากว่า 30 ปีแล้วก็ยังไม่หมด และยังขุดเจาะกันอีกนับร้อยร้อยบ่อ
สภาพเช่นนี้จึงไม่มีวันที่จะทำให้ราคาน้ำมันและแก๊สลดลงได้ และไม่เคยมีสักครั้งเดียว ที่จะมีผู้มีอำนาจคนไหนตั้งใจหรือใช้ความพยายามที่จะแก้ไขปัญหานี้
เพราะเหตุนี้ การแก้ไขปัญหาแก๊สและน้ำมันจึงไม่ใช่ปัญหาของราคาตลาดโลก และไม่ใช่ปัญหาการขาดแคลน แต่เป็นปัญหาไม่นำพาต่อความเดือดร้อนของอาณาประชาราษฎร์ ปล่อยให้เดือดร้อนเป็นไปตามยถากรรม.
สำนักข่าววิหคนิวส์