13 มิ.ย.63 – เฟซบุ๊กเพจ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน l ครช. ได้โพสต์ข้อความโดยมีเนื้อหาดังนี้
24 มิถุนาฯ ทวงคืนมรดกคณะราษฎร ทวงสัญญารัฐธรรมนูญประชาชน
เนื่องในวาระ 88 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครองสยามสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มุ่งหมายให้ประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ
คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ขอเชิญประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจของประเทศทวงถามความคืบหน้ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ในฐานะมรดกทางอุดมการณ์ของคณะราษฎร และคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลให้กับประชาชนว่าจะดำเนินการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา
อีกทั้ง ในวันที่ 13 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ครช. ภายใต้ความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ได้ยื่นยื่นข้อเสนอว่าด้วยหลักเกณฑ์และเเนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ได้แก่
1.สร้างสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้เข้มแข็ง ไม่นำเหตุความมั่นคงมาอ้างในการจำกัดเสรีภาพ ให้ประชาชนเข้าชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สร้างหลักประกันด้านรัฐสวัสดิการ
2. สร้างกลไกเข้าสู่อำนาจที่ยึดโยงกับประชาชน กำหนดให้ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. และ ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด การปฏิรูปประเทศหรือยุทธศาสตร์ชาติ ต้องไม่เกิดขึ้นโดยคนกลุ่มเดียวและต้องไม่นิรโทษกรรมให้คณะรัฐประหาร
3.ให้ตราพระราชบัญญัติการรับฟังความเห็นของประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ความเห็นของประชาชนมีผลผูกพันในทางกฎหมายและทางการเมืองต่อองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
4.ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้จัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้มีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เรื่องหลักเกณฑ์แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยเพียงเสียงเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภาจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
โดยในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 เวลา 10.30 น. ครช. ขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมกันทำกิจกรรมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา (สัปปายะสภาสถาน) เกียกกาย เพื่อแสดงพลังทวงคืนมรดกคณะราษฎร ทวงคืนสัญญารัฐธรรมนูญประชาชน
ขณะที่นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดี คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกครช. ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “หมดเวลาที่จะปล่อยให้ประเทศอยู่ในมือพวกปล้นอำนาจประชาชน ถึงเวลาทวงถาม “รัฐธรรมนูญประชาชน” และความเป็นเจ้าของประเทศที่คณะราษฎรได้มอบไว้ให้กับประชาชน
พบกันวันที่ 24 มิถุนายน นี้ เวลา 10.30 น. ที่หน้ารัฐสภา มาร่วมกันเดินหน้าเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ไปด้วยกัน”