25 เมษายน 2564 นายนคร มาฉิม อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า หากฝ่ายประชาธิปไตยขาดยุทธวิธีการต่อสู้ ยังใช้ริธีการเดิมๆ ก็จะถูกไล่ล่าและพ่ายแพ้ตลอดไป ถึงแม้รัฐบาลเผด็จการทรราชนี้ จะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ในการบริหารจัดการโรคระบาดโควิด 19 โดยเฉพาะ การจัดหาวัคซีน ที่ดี ที่มีคุณภาพสูง นำมาสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ไร้ประสิทธิภาพที่จะปกป้อง คุ้มครอง ชีวิตของคนไทยจากโรคระบาด ไม่พร้อมเปิดประเทศ ทำให้ประเทศชาติ และประชาชน เสียหาย เสียโอกาสอย่างประเมินค่ามิได้
ถึงแม้รัฐบาลเผด็จการทรราชนี้ จะบริหารล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จนไทยรั้งท้ายสุดในอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค
1. เป็นรัฐบาลที่สร้างหนี้ให้กับคนไทย และประเทศไทย สูงที่สุด ตั้งแต่มีรัฐบาลปกครองมา รวมหนี้สิน ถึงมีนาคม 2564 จำนวน 8.42 ล้านล้านบาท และจะเพิ่มจำนวน และเพดานเงินกู้ มากยิ่งขึ้น แต่ไร้ความสามารถหาเงิน ทำให้ประเทศอยู่ในภาวะใกล้ล้มละลาย
2. เป็นรัฐบาล ที่มีการทุจริต คอรัปชั่นสูงที่สุด ตั้งแต่มีประเทศไทยมา โดยข้อมูลจากองค์กรตรวจสอบการทุจริต คอรัปชั่น ระดับโลก ไทยได้ 36 คะแนน จาก 100 คะแนน อยู่อันดับ 104 จาก 180 ประเทศ คือเป็นรัฐบาลที่มีการโกง มีการทุจริต คอรัปชั่น แทบทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทุกขั้นตอน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่มีประเทศไทยมา
3. เป็นรัฐบาลที่ไร้ความสามารถในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาหวย บ่อน ซ่องโสเภณี และปัญหาอาชญากรรม และธุรกิจสีเทา สีดำเหล่านี้มีคนในรัฐบาลเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง รับผลประโยชน์เสียเอง เป็นยุคที่ธุรกิจสีดำ สีเทา หวย บ่อน ซ่องโสเภณี เบ่งบานถึงขีดสุด
4. เป็นรัฐบาลที่ สร้างความเหลื่อมล้ำให้คนไทยมากที่สุด ระหว่างคนรวย 1 % ของคน 50 ตระกูลร่ำรวย ถือครองทรัพย์สินและความมั่งคั่งมากกว่าคนไทยอีก 90 % เป็นความเหลื่อมล้ำสูงสุดอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งจะกลายเป็นปัญหา เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศในอนาคตอย่างใหญ่หลวง การผูกขาด ตัดตอน จะเกิดขึ้นทุกภาคส่วนของประเทศ ไทยจะกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนา และล้าหลังในอนาคต
5. รัฐบาลเผด็จการทรราชนี้ ทำให้ประเทศ กลายเป็นรัฐราชการ เป็นรัฐทหาร ที่ข้าราชการ เป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ส่วนประชาชนทั่วไป กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง คนไทยส่วนใหญ่ อยู่ในสถานะ ทาส ไพร่ ขาดสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในทุกด้าน ภายใต้การควบคุม ของหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะด้านความมั่นคง
6. เป็นรัฐบาลที่ใช้เงินภาษีของประชาชนส่วนใหญ่ ไปเกื้อกูลให้ชนชั้น ศักดินา อำมาตย์ อภิสิทธิชน ให้เสวยสุขอย่างไร้ขีดจำกัด บนความทุกข์ยาก ลำบาก ของประชาชนเจ้าของเงินภาษี
แม้จะไร้ความสามารถ และล้มเหลวที่สุดตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่รัฐบาลเผด็จการทรราชนี้ กลับ
1. สามารถใช้กฎของโจรกบฏ คือรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 บริหาร จัดการ ให้รัฐสภา กลายเป็นรัฐสภาของโจรกบฏ
จัดการให้ ส ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรม ให้ระบอบเผด็จการ ใช้หลอกลวงคนไทย และชาวโลกเชื่อว่าไทย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยทั้งที่เป็นเผด็จการฟาสซิสต์ สามารถทำให้รัฐสภา สยบอยู่ในอาณัติของระบอบเผด็จการซ่อนรูปแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดกลายเป็นตรายางรับรอง ให้ความชอบธรรมให้เผด็จการทรราช อย่างไม่อาจแก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไร เพื่อประชาชนและประชาธิปไตยได้
2. รัฐบาลเผด็จการนี้ สามารถใช้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม ในนามของกฎหมาย จับกุม คุมขัง ทำร้าย ทำลาย แกนนำฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะการใช้ มาตรา 112 เป็นเครื่องมือทำร้าย ทำลาย ไล่ล่า ฝ่ายประชาธิปไตยทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่ง เด็ก นักเรียน นักศึกษา อนาคตของชาติ อย่างโหดเหี้ยม อำมหิต ไม่สนใจต่อกระแสการต่อต้าน ไม่ยอมรับของสังคมโลก
ที่สำคัญ
1. รัฐบาลเผด็จการทรราชนี้ ได้ใช้เงินภาษีประชาชน และเงินกู้ และเงินภาษี มาซื้อเสียงล่วงหน้า ผ่านโครงการบัตรประชารัฐ โครงการคนละครึ่ง โครงการไทยเข้มแข็ง โครงการไทยชนะ และสารพัดโครงการ เพื่อหลอกล่อคนไทย อย่างแยบยล มีเล่ห์เหลี่ยม ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อย อยู่ในภาวะจำยอม ต้องเลือกพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการที่ร่วมรัฐบาลอยู่ขณะนี้
รัฐบาลเผด็จการนี้สามารถบริหารจัดการ ให้คนไทยเป็นเสมือนเป็ด ไก่ สุกร โค กระบือ ในฟาร์มที่เลี้ยง และขุน เอาไว้เป็นฐานคะแนนของพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ ที่ร่วมรัฐบาลอยู่ขณะนี้
2. การที่พรรคการเมืองฝ่ายค้าน สู้เฉพาะแนวรบในสภา ไม่มาร่วมกับประชาชนสู้กับเผด็จการทรราช ในแนวรบนอกสภา ตั้งเป้าหมายว่าจะกวาด ส ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่างถล่มทลาย เพราะเห็นว่าคนเบื่อรัฐบาล คนด่าพลเอกประยุทธ์ ด่ารัฐมนตรีมาก จากการบริหารประเทศล้มเหลว ย่ำแย่ ตกต่ำ เลวร้าย
บอกเลยว่า ท่านคิดผิด ประเมินผิด อย่างมหันต์
เพราะอีกไม่นาน หลังจากมีการแจกเงิน เยียวยาโควิด ในเดือน มิถุนาที่จะถึงนี้ รัฐบาลมีแผนจะยุบสภาแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหญ่ ในเวลาอันใกล้
บนความไม่พร้อม ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ฝั่งประชาธิปไตย
บนความพร้อมสูงสุดของฝ่ายรัฐบาลเผด็จการ ที่มีทั้งเงิน มีทั้งอำนาจรัฐ มีทั้งเครือข่ายราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม องค์กรปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม และมวลชนจัดตั้งที่เงินซื้อได้
จะส่งผลให้พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเผด็จการ ชนะการเลือกตั้ง อย่างถล่มทลาย โดยพรรคพลังประชารัฐ จะได้เสียง เป็นอันดับหนึ่ง
ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะพ่ายแพ้ต่อฝ่ายเผด็จการ อย่างยับเยิน
ฝ่ายรัฐบาลเผด็จการมีทั้งเงินทุน ทั้งอำนาจรัฐ และเครือข่ายที่จัดตั้งเหนือกว่าฝ่ายประชาธิปไตยในทุกมิติ
เมื่อรวมกับ สมาชิกวุฒิสภา ที่เผด็จการตั้งมากับมืออีก 250 คน ฝ่ายเผด็จการ จะมีเสียงอย่างท่วมท้น และกลับมาเป็นรัฐบาล จากการฟอกตัว ผ่านการเลือกตั้งอีกครั้ง อย่างต่อเนื่อง และยาวนาน
ข้อมูลวงในระบุว่า ฝ่ายเผด็จการ ได้วางคนที่จะมาเป็นนายกไว้แล้ว 4 คน ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง คือพลเอกประยุทธ์ ,พลเอกประวิตร นายอนุทินและร้อยเอกธรรมนัส พรมเผ่า ที่ทำงานเข้าตาจอมเผด็จการ
จึงมีคำถามถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคว่าพวกท่านจะดันทุรังสู้ ภายใต้กฎ กติกา ของโจรกบฏ คสช. ทั้งที่รู้ว่าแพ้ แล้วปล่อยให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชนสู้อย่างโดดเดี่ยว ถูกไล่ล่า ถูกจับกุม คุมขัง ถูกอุ้มหาย จนพ่ายแพ้ต่อเผด็จการทรราช ตลอดไปกระนั้นหรือ
เชื่อว่าพวกท่านทราบดี
จึงขอเชิญชวน พรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอให้ท่านได้โปรดตัดสินใจ อย่างกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ออกมาร่วมกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ใช้วิธีการต่อสู้ ทุกวิถีทาง ทุกรูปแบบ เพื่อโค่นระบอบเผด็จการซ่อนรูปนี้ให้ได้ อย่าอยู่เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้เผด็จการทรราชนี้เลยแล้วมาร่วมสร้างกฎ กติกาของประเทศ ให้เป็นประชาธิปไตย ให้ถูกต้อง เป็นธรรม เถิด
หาไม่แล้ว พวกเราฝ่ายประชาธิปไตยจะถูกทำร้าย ทำลาย ถูกไล่ล่า และพ่ายแพ้อีกยาวนาน