#ปะทะเดือด !มาย นำพวกบุกประชุมเอเปค ตร.สลาย ยึดเครื่องเสียง โดนจับเพียบ

กลุ่มผู้ชุมนุมราษฏร์ ที่ปักหลักอยู๋บริเวณลานคนเมือง ได้เคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เพื่อมุ่งหน้าไปใกล้พื้นที่ประชุมเอเปคให้มากที่สุด นั้นคือศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยแจ้งเส้นทางเบื้องต้นคือมีการแจ้งพิกัดเบื้องต้นที่แยกราชประสงค์

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนขบวนในช่วงเช้าผ่านมาได้ถึงถนนดินสอเท่านั้น เนื่องจากเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่

โดยเมื่อเวลา 09.05 น. ตำรวจได้ใช้โล่ และกระสุนยาง พยายามผลักดันผู้ชุมนุมกลับไปที่ลานคนเมือง และไม่อนุญาตให้เคลื่อนขบวนผ่านไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ขณะที่แกนนำกลุ่ม ได้ออกยอมรับว่า การเคลื่อนขบวนตลอดวันนี้ มีความกังวลเรื่องการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ เพราะมีการตั้งจุดสกัด หลายจุดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า การเคลื่อนขบวนจะมีการเจรจาต่อรอง อย่างสันติ สงบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีการปะทะกัน

ส่วนการชุมนุมครั้งนี้ ได้เรียกร้อง 3 เรื่อง คือ ขอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการอีอีซี โดยอ้างว่าเป็นโครงการที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน , ขอให้นายกรัฐมนตรียุติบทบาทในการเป็นประธานการประชุมเอเปค และ ขอให้ยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง

ด้านพล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก กอ.ร่วมฯ เผยว่า ตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุม ราษฎรหยุด APEC 2022 ที่ฝ่าฝืนละเมิดกฎหมาย ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ มีการขว้างปาก้อนหิน และสิ่งของ ทำลายรถยนต์กระบะของทางราชการเสียหาย มีการใช้กำลังทำร้ายและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน

ทั้งนี้ เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ได้มีคำสั่งที่ 115/2565 ลง 17 พ.ย.65 กำหนดเงื่อน คำสั่ง ในการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมฯ โดยมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้มีหนังสือแจ้งการปฏิบัติในการชุมนุมสาธารณะให้ ตัวแทนทราบตามประกาศดังกล่าวแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมปฏิบัติตาม ตำรวจจึงมีความจำเป็นต้องใช้กำลังป้องกันตนเองและทำการจับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 10 ราย ที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขฯ และกระทำความผิดตามกฎหมายอาญาอื่นๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย ทรัพย์สินเสียหายจำนวนหลายรายการ

ส่วนการใช้กระสุนยางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์เพื่อการป้องกันตนเองจากผู้ที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่และเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้า ที่ต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่  ทั้งหมดเป็นไปตามหลักกฎหมาย ตามยุทธวิธี เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ดูแลความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กำชับให้ตำรวจปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีและ ยึดหลักกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และขอให้ตำรวจผู้ปฏิบัติงานทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย