‘ธนาธร’ ปัดจ่ายเงินจ้างม็อบเยาวชนปลดแอก ประชาชนร่วมกันปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุม หลังถูกดำเนินคดี วอนรัฐหันหน้าเข้าหากันก่อนเกิดวิกฤตการเมืองที่จะรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมครั้งนี้ และไม่เคยให้เงินเป็นค่าจ้างกลุ่มกับกลุ่มแกนนำ และเชื่อว่าการออกมาชุมนุมของกลุ่มคนเหล่านั้น ก็ไม่ได้รับอามิสสินจ้างจากใครด้วย แต่เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ส่วนที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรีพรรคพลังประชารัฐ ท้าสาบานว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาจริงๆ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ขอต่อล้อต่อเถียงด้วย
นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และการละเมิดสถาบันว่าขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกเรียกร้องประชาธิปไตยในวันนี้ เพราะสิ่งที่เขาทำทำเพื่ออนาคตของประเทศ หากไม่ปกป้องก็จะไม่มีใคร ออกมาต่อสู้แทนประชาชนได้ เพราะถือเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความกล้าหาญ พร้อมมองว่าการที่ออกมาข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีเป็นกลยุทธ์ของฝ่ายรัฐบาล เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลัว ไม่กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน
นายธนาธร ยังมองว่าการที่คนของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลออกไปร่วมชุมนุมด้วยไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ต่างก็เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อมีการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้พวกเราก็พร้อมที่จะร่วมสนับสนุน ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ให้ยุบสภา นายธนาธร ไม่ขอแสดงความเห็นเพราะเป็นเรื่องของกลุ่มผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ นายธนาธร ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้าหากัน เพราะถึงจุดที่จะใกล้เกิดวิกฤตการเมืองแล้ว ซึ่งหากปล่อยให้วิกฤตการเมืองครั้งนี้เกิดขึ้น มันจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมามาก แต่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ที่จะยับยั้งวิกฤตนี้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของประชาชนขึ้นอีก อย่ารอให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายขึ้นมาก่อนแล้วค่อยหันหน้าพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่าข้อเสนอนี้ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางออกเดียวของสังคมไทย เพื่อหาข้อตกลงใหม่ ที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน