นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ว่า “หลายคนอาจลืมไปแล้ว เรื่องที่ผมได้เข้าร่วมการชุมนุมเพื่อคัดค้านการนำพื้นที่ปราสาทพระวิหารขึ้นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียวในปี 2554 ตลอดจนคัดค้านการรับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในการตีความคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505
การที่จะทำงานคัดค้านในปัญหาเชิงประเด็นเกี่ยวกับประโยชน์ของชาติ ภาคประชาชนมักจะได้คดีความจากรัฐบาลในขณะนั้นมาเป็นผลตอบแทนเสมอ โดยในช่วงเวลานั้นผมและอีกหลายท่าน เช่น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์, คุณพิภพ ธงไชย, คุณประพันธ์ คูณมี, ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ฯลฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำเนินคดีความฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
บัดนี้ ผมและคณะพร้อมด้วยทีมทนายความของคุณสุวัตร อภัยภักดิ์ ได้ต่อสู้ในคดีความมาอย่างเต็มที่และต่อเนื่องมาเป็นเวลา 6 ปีแล้ว และในวันพรุ่งนี้วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 เวลา 09.00 น. ก็จะเป็นวันที่ศาลอาญาแขวงดุสิต (ตลิ่งชัน) ตัดสินคดีนี้ว่า สิ่งที่พวกผมได้กระทำลงไปนั้น เป็นความผิดจริงหรือไม่ และถ้ามีความผิดจะได้รับบทลงโทษอย่างไร”
โดยวันนี้ที่ศาลแขวงดุสิต ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 10 ราย เนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในขณะนั้น ได้ออก พ.ร.บ.ความมั่นคง รวมถึงออกประกาศควบคุมพื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยใช้กฎหมายครอบคลุมการชุมนุม แต่ยังไม่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่สามารถเอาผิดกับประชาชนได้
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตเลขาธิการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการชุมนุมของพันธมิตรฯ และกลุ่มประชาชนปกป้องประเทศไทย ในการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา เมื่อระหว่างปี 2553-2554 ระหว่างนั้นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกกฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคง ออกประกาศควบคุมพื้นที่การชุมนุม โดยในวันนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากการจะเอาผิดกับประชาชนในเรื่องของการชุมนุมโดยใช้การออกกฎหมาย จะต้องมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน แต่ขณะนั้นรัฐบาลยังไม่ได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย กลับมาเอาผิดกับประชาชน จึงไม่สามารถบังคับใช้ได้ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง ซึ่งเป็นคดีแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการกระทำโดยใช้อำนาจรัฐข่มขู่ประชาชน ซึ่งตนหวังว่าจะเป็นบทเรียนของเจ้าหน้าที่รัฐทุกท่าน ควรที่จะต้องระวังในเรื่องของการใช้กฎหมายต่อไป ซึ่งคดีนี้พันธมิตรฯ สามารถฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ แม้จะเป็นคดีเล็กน้อย แต่พันธมิตรฯ ตัดสินใจสู้คดีนานกว่า 6 ปี เพื่อหวังสร้างบรรทัดฐานต่อไป.