อเล็กเซ นาวัลนี ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซีย ยื่นเอกสารลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี2018ต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเขาหมดสิทธิ์ชิงชัย เนื่องจากคณะกรรมการเลือกตั้งชี้ว่าเขาขาดคุณสมบัติ
รอยเตอร์ – อเล็กเซ นาวัลนี ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซียในวันจันทร์(25ธ.ค.) ถูกห้ามจากการลงสมัครสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า หลังเจ้าหน้าที่วินิจฉัยว่าเขาขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกพิพากษาจำคุก แต่โทษให้รอลงอาญา ในคดีที่เขาอ้างว่าเป็นการจัดฉาก
การตัดสินใจของคณะกรรมการเลือกตั้งกลางครั้งนี้เป็นไปตามที่คาดหมายกันไว้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เลือกตั้งเคยประกาศซ้ำๆว่า นาวัลนี จะไม่มีสิทธิ์ลงสมัคร โดยสมาชิก 12 จาก 13 คนของคณะกรรมการเลือกตั้งลงมติห้าม นาวัลนี ลงชิงชัย ส่วนอีก 1 คนงดออกเสียง อ้างถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน
นาวัลนี วัย 41 ปี ซึ่งเคยถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ และคาดโทษทำทัณฑ์บน 5 ปี บอกว่าเขาจะยื่นอุทธรณ์และเรียกร้องให้พวกผู้สนับสนุนคว่ำบาตรการเลือกตั้ง “เรารู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีแผนง่ายๆและชัดเจน” เขากล่าวในเทปวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ซึ่งเผยแพร่ออกมาทันทีหลังการตัดสินใจ “เราประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้ง กระบวนการที่เราเรียกว่าการมีส่วนร่วมในศึกเลือกตั้งจอมปลอม มันจะมีแค่ปูตินและพวกผู้สมัครคนอื่นๆที่เขาเป็นคนเลือกด้วยตัวเองเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม บอริส เอ็บซีฟ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตอบโต้ว่า “เรากำลังพูดถึงกฎหมายและการเคารพต่อกฎหมาย” พร้อมระบุว่าไม่มีข้อสงสัยเพียงน้อยติดเกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติของนาวัลนี โดยรัฐธรรมนูญห้ามเขาลงชิงชัย เนื่องจากถูกพิพากษาจำคุกในคดียักยอกทรัพย์ แม้โทษให้รอลงอาญาไว้ก่อน
นาวัลนี ย้ำมาตลอดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดและกล่าวหาว่าคดีนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง
ผู้นำฝ่ายค้านรายนี้บอกด้วยว่าจะใช้สำนักงานหาเสียงของเขาทั่วรัสเซีย เป็นฐานสำหรับระดมเสียงสนับสนุนคว่ำบาตรและสังเกตการณ์การออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงในวันเลือกตั้ง 18 มีนาคมปีหน้า
ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆระบุว่า ปูติน ซึ่งปกครองภูมิทัศน์ทางการเมืองของรัสเซียมานานอย่างน้อย 17 ปี อยู่บนเส้นทางที่จะคว้าชัยชนะอย่างง่ายดาย นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีต่อไปอีก 6 ปีไปจนถึงปี 2024 ซึ่งตอนนั้นเขาจะมีอายุ 72 ปี
ปูตินได้รับการยกย่องจากพันธมิตรว่าเป็นบิดาแห่งรูปลักษณ์ของชาติ ผู้ซึ่งกอบกู้ความภาคภูมิใจของประเทศและขยายอิทธิพลของรัสเซียออกไปทั่วโลก ด้วยการเข้าแทรกแซงในซีเรียและยูเครน ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาเขากำกับดูแลระบอบเผด็จการคอรัปชันและผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนโดยไม่ชอบธรรม ความเคลื่อนไหวที่ทำให้มอสโกถูกโดดเดี่ยว
ส่วน นาวัลนี บอกว่าเสียงสนับสนุนปูตินนั้นโอ้อวดเกินจริงและจัดฉากโดยสื่อมวลชนแห่งรัฐที่ลำเลียงและระบบที่ไร้ความยุติธรรม พร้อมคุยโวว่าเขาจะสามารถโค่นปูตินได้ในการเลือกตั้งที่ยุติธรรม คำกล่าวอ้างที่ฝ่ายสนับสนุนปูตินระบุว่า “น่าหัวเราะ”
สำนักข่าววิหคนิวส์