“ป๋าเปรม” เปิดบ้านสี่เสานายกฯ-ครม.-เหล่าทัพ เข้าอวยพรปีใหม่ มีสุขภาพ-จิตใจที่เข้มแข็ง อายุยืนยาว พร้อมหวังปี 61 ทำประเทศสู่ความสงบสุขได้สำเร็จ เชื่อ”ตู่”ทำได้ แค่ขอยึดมั่นอุดมการณ์ทำคนไทยมีความสุข ชี้ถ้าทำดีประชาชนพร้อมเป็นกองหนุน
28 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.05 น.ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำรองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) บางส่วน และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าเยี่ยมคารวะและอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่
โอกาสนี้ พล.อ.เปรม ได้มอบหนังสือนวมินทรานุสรณียเทศนา ที่รวบรวมพระธรรมเทศนา 3 กัณฑ์ ของพระพรหมมุนี วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม จัดพิมพ์ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง วันพฤหัสบดีที่ 26 ต.ค.60 โดยคณะศิษยานุศิษย์พระพรหมมุนี ให้แก่ทุกคนที่มาร่วมอวยพรปีใหม่ในวันนี้
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวแทนกล่าวอวยพรปีใหม่ว่า กราบเรียนท่านประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่เคารพรักเป็นอย่างสูง วันนี้พวกเราทุกคนมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง เนื่องในโอกาสวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2561 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผู้แทนหรือทุกๆคนที่มาในวันนี้มาด้วยความรู้สึกอบอุ่น และมีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสมากราบอวยพรท่านองคมนตรีและรัฐบุรุษทุกครั้งเช่นที่ผ่านมา และปีนี้เป็นปีที่เราคาดหวังว่า ในปี 2561 จะเป็นปีแห่งความสำเร็จในการที่จะทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองไปสู่ความสงบสุขอย่างสันติ อย่างยั่งยืนโดยการพัฒนาในทุกๆ ด้าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ท่านประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้เป็นแบบอย่างให้พวกเราทุกคน ทั้งในราชการ
วันนี้ทั้ง ผบ.เหล่าทัพ และตำรวจ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) สำนักงานปลัดกระทรวงต่างๆ และรัฐบาล ครม.ได้มาร่วมอวยพรปีใหม่พร้อมกันในวันนี้ อย่างที่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่า พวกเราทุกคนนั้นมีความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมืองและให้เป็นไปตามที่ท่านประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้เคยกล่าวไว้ว่า
“เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม เราจะต้องทำหน้าที่นั้นเพื่อแผ่นดิน อันเป็นที่รักย่ิงของเรา รักษาไว้ซึ่งแกนหลักของประเทศคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และหน้าที่ของเหล่าทัพต่างๆก็คือประชาชน ซึ่งเราต้องดูแลทุกข์สุขเขาด้วยเวลานี้” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่พวกเราได้ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งสถานการณ์นอกประเทศและในประเทศช่วงที่ผ่านมานั้น จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศหรือในประเทศก็ตาม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการที่เราทำงานให้ประเทศชาติของเรานั้นรุ่งเรือง สถาพรต่อไป ฉะนั้นเราจึงต้องปรับรูปแบบต่างๆหลายประการ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในการดูแลประชาชนให้มีรายได้ที่ดีขึ้นสูงขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการประจายรายไดในทุกมิติ ซึ่งส่ิงเหล่านี้อาจจะเป็นส่ิงที่มองดูแล้วไกลเกินไป เพราะว่าหลายอย่างเกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน เราจึงเป็นต้องปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้ทันต่อสถานการณ์ และเราก็เป็นความคาดหวังของประชาชนทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ท่านประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้วางแนวทางไว้แล้ว ตั้งแต่ท่านเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็นนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งถึงวันนี้เป็นบุคคลที่เราเคารพนับถือ ยกย่องอย่างจริงใจในเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต ความจงรักภักดี และหน้าที่ของพวกเราทุกคนก็คือ นำพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น ให้ลงไปถึงประชาชนทุกคนให้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อแผ่นดินต่อประชาชนคนไทยทุกคนให้จงได้
อีกประการหนึ่งนำความจงรักภักดี นำความปรารถนาดีหรือความตั้งใจของประชาชนทุกคนในการทำหน้าที่ถวายให้กับสถาบัน และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ นี้เป็นส่ิงที่เรายึดมั่นเสมอมาในการสร้างความมั่นคงในเรื่องของสถาบัน และทำทุกอย่างให้เกิดการยอมรับในเรื่องของการที่เราจะร่วมมือซึ่งกันและกันในการทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปข้างหน้าได้ พวกเราทุกคนนั้นเข้าใจดีว่าเฉพาะพวกเราทุกคนนั้นถึงแม้จะอยู่ในตำแหน่ง หรือนอกตำแหน่งก็ตาม หรือในหน้าที่อื่นๆ ก็ตาม ครม.ทุกคนก็คือคนไทยเหมือนกับประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งมีสิทธิมีหน้าที่ของแต่ละคน เพราะฉะนั้นเราต้องยึดมั่นในแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงรับสั่งไว้ว่าทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดในหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ
ขณะเดียวกันต้องสร้างความร่วมมือสืบสานสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม อัตลักษณ์ของความเป็นธรรม ตามแนวทางพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของการสร้างจิตอาสาในการร่วมมือกันในการรักษา สืบสานและต่อยอดแนวพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้ต่อไปและขยายประยุกต์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆที่มีอยู่ในวันนี้ ตนคิดว่าสิ่งที่พวกเราทำในวันนี้ ก็ได้รับความกรุณาจากท่านประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษตลอดมา เสมอมาในการให้กำลังใจกับพวกเราทุกคน และให้เราได้ยึดมั่นในคุณงามความดีในสิ่งที่เป็นมงคลมาโดยตลอด
ตนคิดว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเป็นความผูกพันซึ่งกันและกัน ซึ่งผมต้องกราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยในหลายๆอย่างที่ท่านประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้กรุณากับพวกเราเสมอมา เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2561 ที่จะถึงในอีกไม่กี่วันในวันข้างหน้านี้ พวกเราขอตั้งจิตอธิฐานร่วมใจกันกราบอวยพรปีใหม่และตลอดไป ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและส่ิงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนับถือ ตลอดจนเดชะบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ดลบันดาลประธานพรให้ท่านประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มีสุขภาพร่างกาย จิตใจที่เข้มแข็งและแข็งแรงตลอดไป มีอายุมั่นยืนยาว เป็นขวัญกำลังใจให้พวกเราตลอดไป และในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ตนขอความกรุณากราบขอพรท่านประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อให้พวกเราได้ยึดถือยึดมั่นและเป็นกำลังใจในการทำงานจากนี้ตลอดไป
จากนั้น พล.อ.เปรม กล่าวว่า ตนขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และพวกเราทุกคน ที่กรุณารักษาประเพณีอันเป็นวัฒนธรรมเดิมของเรา ด้วยการมาอวยพรวันปีใหม่ที่จะมาถึงอีกใน 3 วัน ทั้งนี้ คนไทยทุกคนทราบ ได้ยิน ได้อ่านว่ารัฐบาลของตู่ กองทัพต่างๆ ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน กำลังทำอะไรกันอยู่เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา ตู่ได้ให้สัญญาว่าจะนำความสุขมาให้คนไทยเท่าที่สามารถจะทำได้ ดังนั้น ตู่จะต้องดำรงความมุ่งหมายนี้ไว้ให้ได้ว่าเราจะทำทุกอย่างขอให้คนไทยมีความสุขมากขึ้น โดยเฉพาะคนยากคนจน
“ตู่ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว แทบจะไม่มีกองหนุนเหลืออยู่แล้ว แต่ว่าถ้าเราสามารถแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีที่มีต่อประชาชนชาวไทยกองหนุนก็จะมาเอง เพราะฉะนั้นขอให้ดำรงความมุ่งหมายเพื่อเติมกองหนุนมากขึ้นให้ได้ ตนเชื่อว่าตู่ทำได้ พวกเราทุกคนก็ทำได้ และกำลังทำกันอยู่” พล.อ.เปรม กล่าว
อย่างไรก็ตาม ข้อสำคัญที่สุดก็คือ ขอให้ประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดีกับชาวไทยว่าคนไทยที่ดีคืออย่างไร ก็ขอแสดงความชมเชยและภูมิใจในการกระทำของคณะรัฐบาลลุงตู่ และขอย้ำอีกทีว่า ที่ตู่พูดว่าจะนำความสุขมาให้คนไทย จะต้องดำรงความมุ่งหมายนี้ให้ได้ให้ได้แม้จะเหนื่อยยากก็ตาม
โอกาสวันปีใหม่นี้ ตนขอเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่พวกเราเคารพนับถือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามุ่งมั่นปรารถนา ขอให้ประสบความสำเร็จ ในส่วนตัวผมขอให้ทุกคนมีความสุข ครอบครัวมีความสุข ประเทศชาติจะได้ความสุขไปด้วย และขอให้ตู่มีความสำเร็จนำพาชาติบ้านเมืองมอบความสุขให้คนไทยให้จงได้นะตู่นะ ขอบคุณมากขอบคุณมาก
จากนั้น พล.อ.เปรม ได้เดินทักทายกับบรรดาคณะรัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยได้เริ่มทักทาย พล.อ.ประวิตร ทันทีว่า “ป้อมสบายดีนะ แข็งแรงดีอยู่นะ ขอบคุณมาก” พล.อ.ประวิตรกล่าวตอบว่า “ครับ” พร้อมพยักหน้าก่อนตอบว่า “แข็งแรงดีอยู่ครับ” และได้ทักทาย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ พร้อมสอบถามถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยภาพรวม ซึ่ง นายสมคิด กล่าวตอบว่า ขณะนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าเข้าสู่ระบบและทิศทางที่ดี
พร้อมเข้าไปทักทายและขอบคุณบรรดาผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ว่า เป็นอย่างไรบ้างตำรวจงานเยอะใช่ไหม เป็นตำรวจไม่มีวันหยุดต้องทำงานตลอด ขณะที่นายกฯอธิบายว่า ตำรวจทำงานมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น มีผลงานหลายอย่างทั้งการปราบปรามยาเสพติด และช่วยงานความมั่นคง การทำงานภาพรวมถือว่าดี ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวรายงานว่า ปีนี้ค่อนข้างที่จะหนักหน่อยโดยเฉพาะปัญหาเรื่องของยาเสพติดที่มีจำนวนมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาให้ได้
ก่อนที่ พล.อ.เปรม พูดคุยและทักทายกับ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ และ พล.อ.สุรเชษฐ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าคณะ ครม.ส่วนหน้า ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสรุปการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ว่า เราเน้นในเรื่องของการพัฒนาเพื่อทำให้รู้ว่าภาครัฐได้เอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่พักใต้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เปรม ยังได้ทักทาย พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยกระเซ้าว่า “เราเป็นนายกฯ ได้สบาย เพราะทำงานใกล้ชิดอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์”
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับ พล.อ.เปรม ว่า “งานต่างๆ ทำมาแล้วกว่า 3 ปี ทุกอย่างก็เริ่มที่จะออกผลมาให้เห็น เรื่องเหล่านี้เราใจร้อนไม่ได้ ทำวันนี้จะเห็นผลในวันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้เช่นกัน ทุกอย่างต้องเดินตามขั้นตอนที่ได้วางไว้ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างอย่างก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ”
ทั้งนี้ ภายหลังส่ง พล.อ.เปรม กลับเข้าบ้านแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ว่า ขอบคุณนะ และสัญญากันแล้วนะในเรื่องการทำงาน ก็ให้ทำตามสัญญาด้วย พัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น อย่าสร้างความขัดแย้ง
สำนักข่าววิหคนิวส์