ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ระบุว่า
ลุงตู่ เป็น นายกรัฐมนตรี ประชาชนจะได้อย่างไร ?
ผมต้องขอบอกว่า “ลุงตู่” ก็มีความดี ความชอบตอนเข้ามาจัดการแก้ปัญหา บ้านเมือง แต่การเป็นผู้นํารัฐบาลของ “ลุงตู่” กับถูกแทรกแซงจากพี่น้องร่วม อุดมการณ์ และที่สําคัญ คือ “นายทุน สามานย์” ฉ้อฉลเชิงอํานาจ โครงการ ขนาดใหญ่เกี่ยวกับ พลังงาน โดยเฉพาะ สัญญาให้เอกชนผลิตไฟฟ้า รัฐต้องจ่าย ให้เอกชนที่ได้รับสัญญา “ปีละ
90,000 ล้านบาท” บวกกําไรจากการ ขายหุ้นที่ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ “นายทุนสามานย์ด้านพลังงาน” ที่มี ความสนิทสนมกับ ลุงตู่ เป็นผู้ที่ได้รับ การเอื้อประโยชน์ และผลักภาระค่า ไฟฟ้าให้กับประชาชน
สื่อมวลชน “ทําความจริงให้ ปรากฏ” แฉเบื้องหลังสร้าง “โรงไฟฟ้า” รวยถ้วนหน้า ปั้นแผน PDP ระดมปั่นหุ้นราคาก่อนเทขายโยง
ใยครบ ข้าราชการ, นักการเมือง และ บริษัท
ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีคําวินิจฉัย ต้องปรับปรุงแผน PDP เพราะขัดต่อ บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ “ลุงตู่” ในฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบาย พลังงานแห่งชาติก็ไม่ดําเนินการแกไ้ข
กรณี ดาวเทียมไทยคม (ไอพีสตาร์)
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารง ตําแหน่งทางการเมือง มีคําพิพากษา เปิดให้มีการประมูล “ลุงตู่” ก็ไม่ได้
ดําเนินการใด ๆ ปล่อยให้ “นายทุน สามานย์” ปล้นผลประโยชน์ของ ประเทศที่รัฐควรจะได้ 5 แสนล้านบาท
กรณี โทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 ปี 3 บริษัท ประมูลไป 4 หมื่นล้านบาท ภายใน 1 ปี 3 บริษัทกําไร 8 แสนล้าน บาท
กรณี น้ํามัน ขุดจากประเทศไทย แต่ ใช้ราคานําเข้าจากต่างประเทศ ครึ่งปี ปตท.กําไร สุทธิ 1 แสนล้านบาท เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นรับเงินปันผล และ
โรงกลั่นน้ํามันก็กอบโกยผลประโยชน์ ค่ากลั่นน้ํามัน ส่งภาระให้กับประชาชน “ลุงตู่” ก็ไม่ได้ดําเนนิ แก้ไขใด ๆ
ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ที่มีเจตนารมณ์ “ได้นําหลักการ เกี่ยวกับการจัดให้มีสาธารณูปโภคขั้น พื้นฐานที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิตของ ประชาชน มาบัญญัติไว้ในหมวด หน้าที่ของรัฐแทน เพราะเป็นเรื่องที่ ควรกําหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐ รัฐจะ ไม่ดําเนินการไม่ได้ โดยได้แก้ไข
ข้อความนี้ให้มีความชัดเจนและ ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ นอกจากจะกําหนดให้รัฐมีหน้าที่ต้อง จัดหรือดําเนินการให้มีสาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐานที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิต ของประชาชนอย่างทั่วถึง ตาม หลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนแล้ว รัฐยัง จะต้องดูแลมิให้มีการเรียกเก็บ ค่าบริการจนเป็นภาระแก่ประชาชน เกินสมควร ประกอบกับในการนํา สาธารณูปโภคของรัฐไปให้เอกชน
ดําเนินการทางธุรกิจ ไม่ว่าด้วย ประการใด ๆ รัฐต้องได้รับประโยชน์ ตอบแทนอย่างเป็นธรรมด้วย ซึ่งรัฐ ควรต้องคํานึงถึงความสมดุลระหว่าง รายได้ที่รัฐได้จากเอกชน กับภาระที่จะ ตกอยู่กับประชาชนในการใช้บริการ โดยไม่ต้องคํานึงถึงแต่เฉพาะจํานวน เงินที่ได้รับเฉพาะหน้า ในขณะที่ ประชาชนจะต้องแบกรับภาระนั้น ต่อไปในระยะยาว ซึ่งอาจท่วมท้น จํานวนเงินที่รัฐได้รับในครั้งแรก และ
เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชีวิตความ เป็นอยู่ของประชาชน และการพัฒนา ประเทศในระยะยาวได้”
ประชาชนต้องรับภาระจ่ายค่า สาธารณูปโภคที่จําเป็นต่อการดํารงชีวิต “ลุงตู่” แทนที่จะแก้ไขในสิ่งผิด แต่ กลับนําเงินงบกลางที่เป็นภาษีของ ประชาชน มาทําโครงการประชารัฐ ก็ เท่ากับนําเงินภาษีของประชาชน มา เอื้อเฟื้อให้ “พวกนายทุนสามานย์” นี่
คือผลงานการดํารงตําแหน่ง ๘ ปี ของ
“ลุงตู่”
ดร.ณฐพร โตประยูร ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕