หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต 249 คน ไปเมื่อวันที่ 7 พ.ค.และ วันนี้ (8 พ.ค.) ประกาศรับรอง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 149 คน โดยยึดสูตรการคำนวณของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ครบ โดยพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงไม่ถึงค่าเฉลี่ยก็ได้รับจำนวน ส.ส. 1 ที่นั่งด้วย
แม้จะมีเสียงทักท้วงทั้งจาก พรรคเพื่อไทย และ พรรคอนาคตใหม่ โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ยืนยันว่า ตามข้อกฎหมายไม่เปิดช่องให้จัดสรร ส.ส.ให้พรรคที่ได้คะแนนไม่ถึงค่าเฉลี่ยได้ และพรรคจะดำเนินการทางกฎหมายกับ กกต.ต่อไป หากยังฝืนใช้วิธีการคำนวณนี้ เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่จะเสียที่นั่ง ส.ส.จากการคำนวณด้วยวิธีนี้ไปถึง 7 คน
ทั้งนี้ เมื่ออ้างอิงตามผลการเลือกตั้งที่รับรองโดย กกต. แล้ว จะทำให้ กลุ่มพรรคการเมืองที่ประกาศต่อต้านการสืบทอดอำนาจที่เคยประกาศลงสัตยาบรรณร่วมกัน ที่รวมเสียงได้ 253 เสียง ลดลงเหลือ 245 เสียง ไม่ถึงเกณฑ์ครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร
จำนวน ส.ส.ล่าสุดจากการประกาศรับรองของ กกต.
พรรคเพื่อไทย 136 เสียง
พรรคอนาคตใหม่ 80 เสียง
พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง
พรรคประชาชาติ 7 เสียง
พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง
พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง
พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง
ทั้งนี้เสียงที่หายไปจากการคำนวณด้วยสูตรที่จัดสรรที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้พรรคที่ได้ไม่ถึงคะแนนค่าเฉลี่ยคือ
พรรคอนาคตใหม่ ลดลง 7 เสียง
พรรคเสรีรวมไทย ลดลง 1 เสียง
แต่ได้เสียง พรรคประชาชาติ เพิ่มขึ้น 1 เสียง
ส่วน พรรคเพื่อไทย ลดลง 1 เสียง เนื่องจาก นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 8 จ.เชียงใหม่ ถูกให้ใบส้ม ระงับสิทธิ์เลือกตั้ง 1 ปี และให้จัดการเลือกตั้งใหม่
Cr.workpointnews
สำนักข่าววิหคนิวส์