สำนักข่าวต่างประเทศ The Epoch Times รายงานว่า ผู้คุมขังนักโทษท่านหนึ่งได้พานักโทษ 6 คนไปทำงานที่สุสาน จู่ๆผู้คุมก็ล้มลง นักโทษเข้ามาถอนเสื้อเขา นำปืนพก กระเป๋าสตังค์ มือถือออกมา ไม่ใช่เพื่อการหลบหนี แต่เพื่อช่วยชีวิตเขา ช่างเป็นภาพที่สร้างความประทับใจ
ประตูสุสานเปิดไว้ ผู้คุมหมดสติ
สำนักข่าว The Epoch Times รายงานจาก เมือง Polk รัฐเจอร์เจีย ในเรือนจำแห่งหนึ่งผู้คุมนักโทษควบคุมนักโทษ 6 คนตัดหญ้าที่สุสานอากาศในวันนั้นร้อนระอุ ที่เลือกทำงานวันนี้เพราะใกล้จะถึงวันพ่อ ทางเรือนจำหวังว่าจะสร้างความสะดวกบนทางเดินให้กับผู้มาทำความสะอาดช่วงเทศกาลวันพ่อ และหวังว่าจะสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงาม
สุสานที่ไม่มีผู้คน ประตูเปิดอยู่ มีเพียงแค่พวกเขา 7 คน
เรื่องเกิดขึ้นกลางวันที่ไม่มีผู้คนอื่น นักโทษคนหนึ่งเล่าว่า เขาและนักโทษคนอื่นๆกำลังใช้เครื่องตัดหญ้า ทันใดนั้นก็เห็นผู้คุมล้มคุกเข่า หลังจากนั้นก็ล้มลงหมดสติ
นักโทษเข้ามาสัมผัสกับแรงจูงใจในคุก
เมื่อเห็นผู้คุมล้มหมดสติ นักโทษทั้ง 6 คนไม่ลังเลปิดเครื่องตัดหญ้า รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ พวกเขารีบพลิกตัวของผู้คุม ตรวจลมหายใจ ชีพจรและอัตราการเต้นของหัวใจ
พวกเขาพลิกตัวผู้คุม เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร นักโทษคนหนึ่งกล่าวว่า “ขณะนั้นผู้คุมหยุดหายใจแล้ว ทำให้พวกเขาต้องรีบลงมือทันที” นักโทษคนหนึ่งกำลังเล่าเหตุการ์ณนี่คือสิ่งที่พวกเขาทำเป็นอันดับแรก
สิ่งที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจเพราะความรู้ที่ได้รับจากการดูเรือนจำในภาพยนต์ การกระทำของพวกเขาไม่ใช่การหลบหนีแต่เป็นการช่วยเหลือ ทั้ง 6 คนวุ่นกับการค้นของออกการตัวของผู้คุม ทั้งกุญแจรถยนต์ กระเป๋าสตางค์ มือถือ ปลดปืนพก ปลดกระดุมเสื้อ นักโทษคนหนึ่งที่เคยเรียนปฐมพยาบาลได้ช่วยเหลือโดย CPR ทันที
ส่วนนักโทษที่ค้นเจอมือถือรีบโทร 911 ขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ทันที
1 นาทีต่อมา หลังจากนั้นผู้คุมได้รับการช่วยเหลือโดย CPR เขาเริ่มหายใจอีกครั้ง แต่เขาหายใจลำบากและจังหวะไม่คงที่ นักโทษทั้ง 6 คนไม่ได้จากไปไหน นั่งล้อมรอบผู้คุมและอธิษฐานเผื่อเขา เวลานั้น รถฉุกเฉินก็มาถึง ผู้คุมถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที แพทย์กล่าวว่านักโทษเหล่านี้ได้ช่วยชีวิตผู้คุมไว้
เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการ์ณที่เกิดขึ้น นักโทษตกใจทำตัวไม่ถูก พวกเขาดีใจมากที่สามารถช่วยชีวิตคนคนหนึ่งได้
ผู้คุมและครอบครัวขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ หลังจากที่ผู้คุมฟื้นตัวได้ขอบคุณนักโทษที่ช่วยชีวิตเขาไว้
เขากล่าวว่า “สำหรับผู้คุมแล้ว ไม่มีเรื่องที่น่าภูมิใจมากไปกว่าการที่นักโทษได้ช่วยชีวิตไว้” ครอบครัวของผู้คุมได้ทำอาหารแสนอร่อยส่งถึงเรือนจำเพื่อแทนคำขอบคุณ
คำพูดของนักโทษสร้างความประทับใจ
ผมทำแบบนั้นเพราะว่าตอนนั้นสภาพของเขาไม่ดีเลย นักโทษท่านหนึ่งกล่าวว่า ในสายตาของเขา ผู้คุมคนนี้ไม่ได้เป็นศัตรู แต่เป็นเพื่อน เป็นคนในครอบครัว
นักโทษอีกคนกล่าวว่า ผู้คุมท่านนี้เป็นผู้คุมรองของเรือนจำ เขาดีกับพวกผมมาก สำหรับผมแล้ว เขาคือพี่ชายคนหนึ่ง
ตอนที่เหตุการ์ณเกิดขึ้น ในความคิดของผม ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครคือผู้คุม ใครคือนักโทษ นักโทษคนหนึ่งกล่าวว่า “ชายคนหนึ่งหมดสติ พวกเราต้องช่วยเหลือเขา”
ยังมีนักโทษอีกคนเล่าว่าก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ผู้คุมได้บอกกับพวกเขาว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและยังบอกที่ที่เก็บของ เพื่อเกิดอะไรขึ้น นักโทษจะได้จัดการ
นายอำเภอเมือง Polk Johnny Mocts ประทับใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขากล่าวว่า “พวกเขาคาดไม่ถึงว่าต้องทำสิ่งที่ไม่ควรทำ” ยังกล่าวอีกว่า “นักโทษได้พูดถึงผู้คุมว่าผู้คุมดูแลพวกเขาสเหมือนคนในครอบครัว”
นายอำเภอ Johnny Mocts กล่าวขอบคุณนักโทษและกล่าวขอบคุณผู้คุมที่ดีกับนักโทษ นายอำเภอยังเล่าถึงคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ เรือนจำแห่งหนึ่งในจอร์เจียมีนักโทษ 2 คนได้ร่วมกันฆ่าผู้คุมแล้วหลบหนี ไม่นานนักโทษ 2 คนนี้ก็ถูกจับคุมตัวเข้าเรือนจำอีกครั้ง
Cr.LIEKR,maginside
สำนักข่าววิหคนิวส์