เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 9 มีนาคม ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 ว่า ต้องแก้ไขปัญหาระยะยาว ต้องดูเรื่องแหล่งกำเนิดฝุ่นเป็นหลัก โดยร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กระทรวงคมนาคม รวมถึงควบคุมการเผาชีวมวล ทั้งนี้ มีแผนวาระแห่งชาติที่หน่วยงานรับผิดชอบ ต้องร่วมมืออย่างจริงจัง
“กทม.พยายามทำหน้าที่เราอย่างเต็มที่ แต่บางอย่างเป็นสิ่งที่เราควบคุมยาก ทั้งการเผา สภาพอากาศ ต้องพยายามร่วมมือกัน ให้เป็นวาระแห่งชาติจริงๆ” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวว่า สำหรับแหล่งกำเนิดฝุ่น ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ รถยนต์ สภาพอากาศ การเผาชีวมวล ถ้าลดตัวใดตัวหนึ่งจะสามารถลดฝุ่นได้ สำหรับการลดมลพิษในกรุงเทพฯ ต้องหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น หรือการให้ทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ซึ่งช่วยลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน การเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพมากขึ้น การเก็บภาษีรถยนต์เก่าให้มากขึ้น ทั้งนี้ กทม.ยังไม่มีอำนาจห้ามรถยนต์เข้า หรือเก็บภาษีเพิ่มสำหรับรถเครื่องยนต์เก่า
“เรามองประเด็นอื่นที่ลึกกว่านั้น เรื่องแหล่งกำเนิดฝุ่นอย่างแท้จริง เช่น เมืองที่มีความร้อนสูงมีผลต่อความกดอากาศหรือไม่ เป็นอีกมิติที่ต้องดูลึกไปอีกว่าการเก็บความร้อนของเมือง มีผลต่อการดักฝุ่นหรือไม่” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวว่า หากพบว่าค่าฝุ่นมีระดับสีส้ม 3 วันติดต่อกัน ทาง กทม.จะประกาศ Work from Home สำหรับหน่วยงานของ กทม. แต่วันนี้ที่ไม่ประกาศเพราะคาดว่า 1-2 วันข้างหน้า สถานการณ์ฝุ่นจะดีขึ้น เนื่องจากลมทิศใต้พัดเข้าแรงชนะลมทิศตะวันออก ทำให้อากาศเริ่มถ่ายเทดีขึ้น ขณะที่ยอดผู้เข้ารับบริการคลินิกมลพิษทางอากาศใน 6 โรงพยาบาลของ กทม. ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565-8 มีนาคม 2566 รวม 720 ราย แต่คิดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกน้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก