2 ส.ค.2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานถึงปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ประจำปี 2565 โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2565 ในภาพรวมพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค. 2565 มีปริมาณผู้โดยสารทั้งเข้า–ออกประเทศในทุกมิติการขนส่งรวม 2,050,744 คนเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย ม.ค.-มิ.ย. 2565 เฉลี่ยเดือนละ 575,837 คน
ทั้งนี้ ในจำนวนดังกล่าว แบ่งเป็น ผู้โดยสารขาเข้า จำนวน 1,055,608 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย ม.ค.-มิ.ย. 2565 ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 482,719 คน คิดเป็น เพิ่มขึ้น 118.68% โดยสัดส่วนการเดินทางตามรูปแบบการเดินทางใน ก.ค. 2565 พบว่า ทางอากาศ มีสัดส่วนการเดินทางสูงสุด คิดเป็น 99.13% รองลงมา คือ ทางถนน 0.77%, ทางราง 0.05% และทางน้ำ 0.05%
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สำหรับปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะ โดยจำแนกตามรูปแบบการเดินทาง ได้แก่ 1.ทางถนน มีปริมาณผู้โดยสาร ก.ค. 2565 รวม 42,646 คน เพิ่มขึ้นจาก มิ.ย. 2565 ซึ่งมีผู้โดยสาร 25,895 คน เป็นการเดินทางเข้าประเทศ 16,968 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย ม.ค.-มิ.บ. 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 6,711 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 152.84%
นอกจากนี้ จากสถิติการเดินทางระหว่างประเทศ พบว่า ผู้โดยสารที่เดินทางทางถนนส่วนใหญ่ ใช้รูปแบบการเดินทางในเส้นทางของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ตนจึงได้มีนโยบายให้ บขส. เปิดให้บริการผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศ จำนวน 10 เส้นทาง โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ได้แก่
- มุกดาหาร–สะหวันนะเขต
- หนองคาย–นครหลวงเวียงจันทร์
- อุดรธานี–นครหลวงเวียงจันทร์
- อุบลราชธานี–เมืองปากเซ
- ขอนแก่น–นครหลวงเวียงจันทร์
- กรุงเทพมหานคร–นครหลวงเวียงจันทร์
- นครพนม–ท่าแขก
- อุดรธานี–ท่าอากาศยานอุดรธานี–หนองคาย–วังเวียง
- เชียงราย–แขวงบ่อแก้ว
- เลย-แขวงหลวงพระบาง
2.ทางน้ำ มีปริมาณผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ก.ค. 2565 รวม 325 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย ม.ค–มิ.ย. 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 267 คน คิดเป็น เพิ่มขึ้น 21.72% โดยสัดส่วนการเดินทางระหว่างท่าเรือชายแดนและเรือยอร์ชใน ก.ค. 2565 พบว่า มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าเรือชายแดน 179 คน คิดเป็น 56% และมีปริมาณการเดินทางด้วยเรือยอร์ช 142 คน คิดเป็น 44%
3.ทางราง มีปริมาณผู้โดยสาร ก.ค. 2565 รวม 4,609 คน เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางขาเข้าและขาออกประเทศพบว่า มีปริมาณการเดินทางขาเข้า 2,161 คน คิดเป็น 47% และมีปริมาณการเดินทางขาออก 2,448 คน คิดเป็น 53% โดยขณะนี้ การเดินทางในระบบราง ได้มีการเปิดเดินรถไฟกับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น เช่น รถไฟเชื่อมต่อกับสปป.ลาว เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางระหว่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น
4.ทางอากาศ มีปริมาณผู้โดยสาร ก.ค. 2565 รวม 2,003,164 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยปริมาณผู้โดยสาร ม.ค.-มิ.ย. 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละ 931,512 คน ซึ่งเป็นการเดินทางขาเข้าประเทศ จำนวน 1,036,154 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย ม.ค.-มิ.ย. 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 480,215 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 115.77%
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางตามท่าอากาศยานใน ก.ค. 2565 พบว่า มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1,492,690คน คิดเป็น 76% มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง 245,168 คนคิดเป็น 11% และมีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานภูมิภาค 265,306 คน คิดเป็น 13%
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมยืนยันถึงความพร้อมในการรองรับการบริการการเดินทางของนักเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโรคสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ โดยประกาศยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565
ทั้งนี้ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนดให้สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้อย่างเสรี รวมถึงการยกเว้นการลงทะเบียน Thailand Pass หรือ COE ของชาวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นลบ
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ บูรณาการร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในทุกมิติ และให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 อย่างเคร่งครัด