ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ผ่านบ้านล้านหลัง ! มีรายได้น้อย-อาชีพอิสระ ดอกเบี้ยต่ำ

#ผ่านบ้านล้านหลัง ! มีรายได้น้อย-อาชีพอิสระ ดอกเบี้ยต่ำ

8 September 2021
721   0

   วันนี้ มีรายงานว่า น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อย และผู้สูงอายุ เพื่อให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง จึงผลักดันให้มีการสานต่อโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2
.
ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ดำเนินการให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาซื้อ – ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ภายใต้กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99% ต่อปี ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. และยังผ่อนปรนเงื่อนไขเพื่อช่วยให้ประชาชนมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม
.
รวมถึงกลุ่มที่ประกอบอาชีพประจำ หรืออาชีพอิสระ สามารถนำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือน มาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ และหากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ให้ธนาคารพิจารณาได้ ให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน
.
เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตนเองอย่างครบวงจร โดยพี่น้องประชาชนที่สนใจสามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ผ่าน Mobile Application : GHB ALL (https://www.ghbank.co.th/electronic-services/application/ghb-all) และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ
.
“บ้านเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างเริ่มจากบ้าน ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงสังคมประเทศไทยของเราทุกคนที่มีความรักความสามัคคี รัฐบาลจึงเดินหน้าตั้งแต่มายังโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2561 ต่อมาเมื่อต้นปี 2564 ก็มีโครงการบ้านเคหะสุขประชา ที่เป็นที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ราคาประหยัด วางรากฐานเพื่อให้เป็นชุมชน “เศรษฐกิจสุขประชา” สร้างอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยให้มีรายได้สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และตามความสนใจ และความถนัดที่มีให้เลือก
.
รัฐบาลจึงอนุมัติโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 เพิ่มเติมเพื่อให้ประเทศไทย และคนไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ตามกรอบเวลายุทธศาสตร์ชาติ โดยรัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และทำเพื่อประชาชนให้มากที่สุด” น.ส.ทิพานัน กล่าว
.
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังเดินหน้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อดำเนินโครงการพัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 3 จำนวน 1,766 โครงการ วงเงินรวม 2,909 ล้านบาทดำเนินการ ใน10 จังหวัด ได้แก่จังหวัดแพร่ พิษณุโลก ตาก สุโขทัย ร้อยเอ็ด สุรินทร์ อำนาจเจริญ อยุธยา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ใน 4 กลุ่มโครงการ ประกอบด้วย

กลุ่มพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยวบริการ และการค้า , กลุ่มยกระดับประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร , กลุ่มส่งเสริม และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน และกลุ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชุมชนระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม 2564 คาดว่า จะทำให้เกิดการจ้างงานรวมทั้งสิ้น 29,765 คน และมีผู้ได้รับประโยชน์ประมาณ 3.54 ล้านคน
.
พร้อมเตรียมโครงการนี้ครั้งที่ 4 อีกจำนวน 1,434 โครงการ วงเงินรวม 3,753 ล้านบาท ดำเนินการในอีก 14 จังหวัด ประกอบด้วย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ เลย นครพนม บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ลพบุรี อ่างทอง สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครนายก และยะลา โดยจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด กระจายงบประมาณลงไปในกลุ่มเป้าหมาย
.
“เชื่อว่า เม็ดเงินจากมาตรการดังกล่าว จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแรง ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว จากการส่งเสริมความเข้มแข็งภายใน และจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้” น.ส.ทิพานัน กล่าว – 006
——————————-