เมื่อ 8 ต.ค.63 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระบาดระลอก 2 ในยุโรปยังคงรุนแรง กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสแถลงยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุด ถึง 18,746 ราย ซึ่งถือเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในวันเดียวจำนวนมากที่สุดในฝรั่งเศส นับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดในประเทศ
ส่วนทางการเยอรมนี แถลงเมื่อวันที่ 8 ต.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในวันเดียวกว่า 4,000 ราย ซึ่งพุ่งพรวดกว่าวันก่อนหน้า ถึง 40 % และยังเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงสูงที่สุดในเยอรมนี นับตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยรมว.สาธารณสุขเยอรมนี Jens Spahn กล่าวยอมรับว่า การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงขึ้นขนาดนี้ กำลังน่าวิตกกังวล ถึงแม้ทางการได้มีการใช้มาตรการคุมเข้มในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้ง ผับ บาร์ ร้านอาหาร จะต้องปิดให้บริการในเวลา 23.00 น. รวมทั้งมีการเข้มงวดเกี่ยวกับการเดินทางแล้วก็ตาม
ด้านอิตาลี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ถึง 3,678 ราย ซึ่งถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อสูงสุดภายในวันเดียวเช่นกัน นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยคงมีแต่สเปน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปที่เผชิญกับโควิด-19 ระบาดรุนแรงที่สุด ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือประมาณ 9,500 รายต่อวัน จากที่ก่อนหน้า ติดเชื้อถึงวันละกว่า 11,000 ราย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรง รวมทั้งในกรุงมาดริด เมืองหลวงสเปน อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยมีพลเมืองในสเปนราว 5.6 ล้านคนอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งในจำนวนนี้ 80% อยู่ในกรุงมาดริ