องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้ประเทศในยุโรปรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อสกัดการระบาดของ ‘โรคฝีดาษลิง’ (Monkeypox) หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
.
นายแพทย์ฮานส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงทั่วโลกในขณะนี้ 90% อยู่ในภูมิภาคยุโรป ซึ่งพบผู้ติดเชื้อแล้วใน 31 ประเทศ และกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
.
“วันนี้ ผมต้องขอเรียกร้องให้รัฐบาลและภาคสังคมเพิ่มความพยายาม เพื่อป้องกันไม่ให้โรคฝีดาษลิงระบาดไปทั่วพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กำลังเติบโต” นายแพทย์คลูเกอกล่าว พร้อมเสริมว่า “การดำเนินการอย่างเร่งด่วนและการร่วมมือกันเป็นสิ่งจำเป็น”
.
ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ทั่วโลกพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงแล้วกว่า 5,000 รายใน 51 ประเทศ โดยมีผู้ป่วยราว 10% ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่พบการระบาดนอกทวีปแอฟริกาครั้งแรกในเดือน พ.ค.
.
นายแพทย์คลูเกอระบุว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงส่วนใหญ่ 99% เป็นเพศชายที่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์เพศเดียวกัน ขณะที่การติดต่อในกลุ่มสมาชิกครอบครัวเดียวกันและผู้ป่วยเด็กมีจำนวนน้อยมาก โดยอาการป่วยที่พบคือ มีไข้ ผื่นขึ้นตามตัว เหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน และหนาวสั่น
.
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อวันเสาร์ว่า การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงยังไม่จัดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังระดับสูงสุดขององค์การอนามัยโลก แต่แนะนำให้เฝ้าระวังการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด
.
.