วันนี้ (5 ก.พ.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ของพรรคฯ หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเขตเลือกตั้งเพิ่ม ได้แก่ นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และอดีตนายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นางอวยพรศรี ชวลิต ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายพิทักษ์เดช เดชเดโช น้องชายนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งบุคคลทั้ง 3 ได้ผ่านความเห็นเบื้องต้นของคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว
ส่วนการเปิดตัวผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ จะเชื่อมโยงกับกระแสข่าวการยุบสภาของนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการพูดคุยถึงการยุบสภาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือจะเกิดขึ้นเมื่อใด พร้อมย้ำว่า การเปิดตัวผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น พรรคฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่องอยู่แล้ว ภายใต้แนวคิดเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ โดยได้เปิดตัวผู้สมัครที่สนใจหลายครั้งมาโดยลำดับ และหลังจากนี้ จะเปิดตัวผู้สมัครจังหวัดกระบี่ และจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป
นายจุรินทร์ ยังยืนยันว่า ผู้สมัคร ส.ส.ในภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ มีความพร้อมแล้ว เว้นเพียงบางจังหวัดที่มีผู้สนใจเสนอตัวเกินจำนวนเขตเลือกตั้ง จึงจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนที่มีการประเมินการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส. จะเกิดก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ในช่วงกลางปีนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.คณะรัฐมนตรี และ กกต. จะเป็นผู้กำหนดร่วมกัน ต้องขอบคุณรมว.มหาดไทย ที่ชี้แจงในที่ประชุมวุฒิสภาที่คาดการณ์ว่า การเลือกตั้งผู้ว่ากทม.จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม เช่นเดียวกับ การเลือกตั้งใหญ่ ส.ส. จากการยุบสภาที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี จะหารือ หรือไม่หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ก็ได้
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ นายจุรินทร์ ยอมรับว่า เห็นใจนายกรัฐมนตรีต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ที่ต้องรับปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง แต่ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ต้องรับผิดชอบบ้านเมือง และในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่ให้เป็นภาระรัฐบาล
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ของ พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นการดิสเครดิตกันหรือไม่ว่า ประเด็นดังกล่าว นายสุชัชวีร์ ได้ชี้แจงไปแล้ว และพร้อมรับการตรวจสอบ และเชื่อว่า ประชาชนที่ติดตามสถานการ์ณทางการเมือง น่าจะคาดเดาได้ว่า การดำเนินการของกรรมาธิการฯ จะเกิดขึ้นหรือไม่ หากนายสุชัชวีร์ ไม่ได้ประกาศตัวลงสมัครผู้ว่าราชการกทม.ของพรรค จึงขอเตือนกรรมาธิการฯ ให้ระมัดระวัง เพราะในกรรมาธิการฯ มี ส.ส.จากหลายพรรคการเมือง และเป็นพรรคการเมืองที่แจ้งความจำนงลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่ากทม.ร ร่วมกับนายสุชัชวีร์ด้วย และคิดว่า ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องเข้าไปช่วยติดตามการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินของนายสุชัชวีร์แต่อย่างใด เพราะมั่นใจว่า นายสุชัชวีร์ จะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ และไม่น่ามีปัญหา
ส่วนปัญหาองค์ประชุมสภาไม่ครบจนสภาล่มหลายครั้งนั้น นายจุรินทร์ เห็นว่า ส.ส. ทุกฝ่าย จะต้องระมัดระวัง และอย่างน้อยที่สุด พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะต้องเป็นหลักในการประชุม ซึ่งตนไม่ขอวิจารณ์ใด ๆ และหวังเห็นงานของรัฐบาล สามารถดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น และไม่ให้เสียภาพลักษณ์สภา