ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือประกาศความพร้อมในการระดม “มาตรการป้องปรามด้านนิวเคลียร์” หากเกิดการเผชิญหน้าทางทหารกับสหรัฐฯ พร้อมเปิดปากวิจารณ์ผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่เป็นครั้งแรก โดยเตือนโซลให้หยุดยั้งการกระทำที่อาจจะนำไปสู่ “สงคราม”
ผู้นำ คิม กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 69 ปี การทำสนธิสัญญาหยุดยิงในสงครามเกาหลี ซึ่งตรงกับวันที่ 27 ก.ค. ของทุกปี และเป็นการย้ำเตือนว่า “ในทางเทคนิค” สองเกาหลียังคงอยู่ในภาวะสงคราม
ผู้นำโสมแดงระบุว่า การเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์มาตั้งแต่ช่วงสงครามเกาหลีปี 1950-53 ทำให้เกาหลีเหนือจำเป็นที่จะต้องบรรลุ “ภารกิจสำคัญเร่งด่วนทางประวัติศาสตร์” ในการยกระดับป้องกันตนเอง
“กองทัพของเรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการตอบสนองวิกฤตต่างๆ และมาตรการป้องปรามด้านนิวเคลียร์ของเราก็อยู่สภาวะที่พร้อมต่อการเรียกระดมเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างแข็งแกร่ง แม่นยำ และทันท่วงที” คิม กล่าว
ถ้อยแถลงของผู้นำเกาหลีเหนือมีขึ้นท่ามกลางเสียงเตือนจากเจ้าหน้าที่วอชิงตันและโซลที่ระบุว่า เปียงยางตระเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับการเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่ หลังจากที่หยุดพักไปตั้งแต่ปี 2017
รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันอังคาร (26 ก.ค.) ว่า “มีความเป็นไปได้” ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์ในวันครบรอบสนธิสัญญาหยุดยิง
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ด้านการทหารยังไม่พบสัญญาณความเคลื่อนไหวดังกล่าว
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ก็ออกมาขู่ในวันพุธ (27) ว่า โสมแดงจะต้องเผชิญบทลงโทษที่หนักหน่วงขึ้น รวมถึงมาตรการตอบโต้เพื่อจำกัดศักยภาพในการโจมตีทางไซเบอร์ของพวกเขา หากยังขืนเดินหน้าทดสอบนิวเคลียร์
ผู้นำ คิม ชี้ว่า วอชิงตันยังคงร่วมมือกับเกาหลีใต้กระทำการต่างๆ ที่ “อันตรายและก้าวร้าวอย่างผิดกฎหมาย” ต่อเกาหลีเหนือ และพยายามอ้างความชอบธรรมให้ตัวเองโดยการป้ายสีเกาหลีเหนือให้ดูเป็นรัฐอันธพาล
“การที่สหรัฐฯ ทำตัว 2 มาตรฐาน ด้านหนึ่งตราหน้ากิจวัตรทุกอย่างของกองทัพเราว่าเป็นการยั่วยุและภัยคุกคาม แต่ในขณะเดียวกัน ยังเปิดซ้อมรบร่วม (กับเกาหลีใต้) ซึ่งเป็นการคุกคามความมั่นคงของเรา ทั้งหมดนี้ไม่ต่างอะไรกับการปล้น (robbery)” คิม กล่าว
“สิ่งเหล่านี้ทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีตกต่ำลงจนถึงจุดที่ยากจะกู้คืน”
คิม ยังกล่าววิจารณ์ประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล ผู้นำสายอนุรักษนิยมคนใหม่ของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก โดยกล่าวหารัฐบาล ยุน ว่าจงใจคุกคามความมั่นคง และละเมิดสิทธิในการปกป้องตนเองของเกาหลีเหนือ
ยุน ประกาศจะนำ “ระบบสังหาร” (Kill Chain) ออกมาใช้ ซึ่งหมายถึงการเป็นฝ่ายลงมือโจมตีก่อน (preemptive strikes) เพื่อทำลายขีปนาวุธ หรือแม้กระทั่งตัวผู้นำเกาหลีเหนือ หากพบสัญญาณว่าเปียงยางจะเปิดฉากจู่โจมอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี ผู้นำ คิม เย้ยว่าระบบดังกล่าวไม่อาจจะต้านทานอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเกาหลีเหนือได้
“หากพวกคุณคิดว่าสามารถเผชิญหน้ากับเราในทางทหาร และจะโจมตีก่อนเพื่อให้กองทัพของเราโดนทำลายหรือหมดสมรรถภาพ… ความพยายามที่อันตรายเช่นนั้นจะถูกลงโทษด้วยพลังอันมหาศาล และทั้งรัฐบาล ยุน ซุกยอล รวมถึงกองทัพของเขา จะต้องพังพินาศ” คิม กล่าว
ยาง มูจิน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซลชี้ว่า ถ้อยแถลงที่ดุเดือดของผู้นำ คิม ดูเหมือนจะมีเจตนาเน้นย้ำความชอบธรรมในการพัฒนาอาวุธ และเตือนว่าเขาพร้อมที่จะใช้แนวทางแบบ “ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน” กับทั้งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
ที่มา : รอยเตอร์