พลเอก จรัล กุลละวณิชย์ปธ.ธรรมาภิบาล นำคณะฯเที่ยวงาน”อุ่นไอรัก คลายความหนาว”ด้าน หน.ไทยศรีวิไลย์ ชี้ ไทยอยู่ได้จนทุกวันนี้เพราะบุญคุณสถาบันพระมหากษัตริย์
ภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ(ภธช.) นำโดย พลเอก จรัล กุลละวณิชย์ ประธาน ภธช,ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน รองประธาน ภธช, พลเอก ดร. กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ รองประธาน ภธช, นายมงคลกิตติ์ สุขสินทรานนท์ เลขาธิการ ภธช และ หัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ นำคณะกรรมการฯและสมาชิกภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ เข้าร่วมงาน อุ่นไอรักคลายความหนาว ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า
พลเอก จรัล กุลละวณิชย์ ประธาน ภธช. กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ จัดงานอุ่นไอรักขึ้น ณ สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต วันนี้มีโอกาสได้ชักชวนกัน โดยภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ กับสมาคมเครือข่ายธรรมมาภิบาล และกลุ่มไทยศรีวิไลย์ เราก็ได้ดำเนินตามที่ได้กรุณาโปรดเกล้าจัดขึ้น คือแต่งกายย้อนยุคกันมา สิ่งที่เข้ามาและได้มองเห็น ก็คือ ประทับใจ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พี่น้องประชาชนได้มาเห็นบรรยากาศเก่าๆ
ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 ได้เห็นดอกไม้สวยงาม ได้เห็นบรรยากาศเก่าแก่ทั้งหลาย รูปเก่าๆ เช่น รถยนต์นั่งออสติน รถไฟไปรษณีย์ สถานีตำรวจเก่าแก่ทั้งหลาย บรรยากาศเก่าๆ ที่องค์กรต่างๆ นำมาร่วมกันแสดง เป็นที่ประทับใจ ทำให้เราได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเรา ได้รู้ว่า ในอดีตของเรามีการพัฒนาเจริญก้าวหน้าไปอย่างไร ด้วยการปกครองแบบธรรมาธิปไตย ผมย้ำนะครับว่า ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา เจริญก้าวหน้ามาร้อย ถึงสองกว่าปี ด้วยธรรมาธิปไตย และด้วยพระบารมีขององค์พระประมุขของชาติ คือพระมหากษัตริย์ ทุกท่านครับ ยังเหลือเวลาอีกหลายวัน มีโอกาสเมื่อไหร่ ก็มาครับ วันนี้ อากาศดี แดดก็ไม่ร้อน ในหลายๆที่ ลมเย็นพัดโกรก สบายทั้งตา สบายทั้งใจ ตาก็ได้เห็น ได้มีความอบอุ่น ได้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่เราได้อยู่ในแผ่นดินนี้ตลอดมาครับ ขอเชิญชวนทุกๆท่านมานะครับ และอย่าให้เลยเดือนมีนาไปนะครับ เดี๋ยวจะอดดู
พลเอก ดร. กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ รองประธาน ภธช กล่าวว่าในนามของสมาคมเครือข่ายธรรมาภิบาล ซึ่งก่อกำเนิดมาจากภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ และตอนนี้เราก็มีอีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มไทยศรีวิไลย์ ทั้งหมดนี้ เรากำลังดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ทำตามพระปฐมบรมราชโองการ โดยพระองค์รับสั่งว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชนชาวสยาม คือสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำ และรัชกาลที่ 10 ท่านก็รับสั่งว่า ท่านจะตามรอยรัชกาลที่ 9 และวันนี้ท่านพลเอก จรัล กุลละวณิชย์ ประธานภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ ก็ได้นัดหมายให้พวกเรามาที่นี่ เพื่อเป็นตัวแทนของคนทั้งหลายที่ยังไม่มีโอกาสมา และอยากจะเชิญชวนทุกคนให้มานะครับ งานนี้ยังมีไปเรื่อยๆ จนถึง วันที่ 11 มีนาคม นี้ เพราะฉะนั้นทุกท่านยังมีโอกาสเดินทางมา และมารับดอกไม้ เครื่องสักการะพระราชทาน ในเวลาใกล้ๆเที่ยง เพื่อมาสักการบูชา รัชกาลที่ 5 และเที่ยวชมภายในงาน ณ พระราชวังดุสิต มีหน่วยงานต่างๆ มาร่วมเยอะแยะมากมาย ผมคิดว่า ทุกท่านจะได้ระลึกถึงว่า ประเทศไทยนั้นมีความศิวิไลย์ และมีอารยะธรรม มาอย่างช้านานแล้ว ประเทศเรานี้จะแปดร้อยปีแล้วนะครับ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินทรานนท์ เลขาธิการ ภธช และ หัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า วันนี้ก็ได้มีโอกาสตามท่านพลเอกจรัล และท่านพลเอกกิตติศักดิ์ มาในงานอุ่นไอรัก ก็ถือว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความร่มรื่น ร่มเย็น และได้ซึมซับถึงความอบอุ่นตามชื่องาน คืออุ่นไอรัก แต่ความจริงแล้ว คำว่ารัก น่าจะมาจากการที่เรารักชาติ รักแผ่นดิน รักสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งงานนี้ก็ถือว่า เป็นสิ่งที่อยากให้ประชาชนคนไทยทั้ง 65 ล้านคน ได้มาร่วมงานนี้กัน ที่ลานพระราชวังดุสิต เนื่องจากงานนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงโปรดเกล้าให้จัดงานนี้ขึ้นเพื่อคนไทยทุกคน ให้ซึมซับถึง พระมหากรุณาธิคุณ ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงปกบ้านสร้างเมือง ประเทศไทยจนมาถึงทุกวันนี้ ก็ด้วยบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม
ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 10 นี่เฉพาะกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะฉะนั้นแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีประมาณ เจ็ดพันกว่าองค์กรด้วยกัน ถ้าเป็นไปได้ก็สามารถที่จะพาคนที่ไม่มีโอกาส ได้เข้ามาซึมซับความเป็นไทย ความเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ ความเป็นสยามประเทศ สยามเมืองยิ้ม และก็จะทำให้พวกเราซึมซับถึงความหลากหลายด้วยกัน ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ทุกจังหวัด อบจ. อบต. เทศบาล ให้ชวนกันมา ถ้าไม่เป็นธุระกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากเกินไป ก็น่าจะพาชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น มาในงานนี้ เพื่อหลังจากจบงานวันที่ 11 นี้แล้ว ให้เอาไปเป็นแบบอย่าง จัดงานแบบนี้ในทุกๆจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ซึมซับขนบธรรมเนียมประเพณี เพราะประเทศไทยเป็นดินแดนอารยะธรรม เป็นดินแดนประวัติศาสตร์ ซึ่งต่างชาตินั้นไม่มีเหมือนประเทศไทย เพราะฉะนั้นเราสามารถที่จะดึงจุดเด่น กลายเป็นจุดขายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นสยามแห่งอารยะ เป็นสยามเมืองยิ้มที่มีประชาชนคนไทย ที่มีแต่ความสงบสุข สันติ และไม่มีความขัดแย้ง ในยุคของรัชกาลที่ 10
คือยุคของชาวศิวิไลย์ ก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน มาร่วมกัน และส่วนราชการทุกภาคส่วน ก็ควรที่จะต้องมา เพราะอย่างน้อยข้าราชการ ประมาณสองล้านคน ก็อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ของสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ด้วยกันนะครับ ก็ขอเชิญชวนมากันตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 11 มีนาคมนี้ครับ ถ้าเป็นไปได้ต่างจังหวัด ก็จัดไปด้วย
เลียนแบบก็ได้ ให้เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณี ของวัฒนธรรมไทย และก็มีภูมิปัญญา ในส่วนของแต่ละท้องถิ่นซึ่งแตกต่างกัน เพิ่มเติมเข้าไป ทำให้เยาวชน ประชาชนชาวไทย นึกถึงความเป็นรากเหง้า ของความเป็นชาติไทย ซึ่งเราก็รักและหวงแหนแผ่นดินไทยของเราเหมือนกันทุกคน
สำนักข่าววิหคนิวส์