ข่าวประจำวัน » #พันธมิตรระดมพล 7 ตค. !! รอสัญญาณรุกกรณีปปช.ไม่อุทธรณ์สลายการชุมนุม

#พันธมิตรระดมพล 7 ตค. !! รอสัญญาณรุกกรณีปปช.ไม่อุทธรณ์สลายการชุมนุม

16 September 2017
702   0

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์คณะทำงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 4/2560 เรื่องจัดงานรำลึกวีรชน เสวนาระดมความคิดเห็น และลงมติประชาชนเพื่อคืนความเป็นธรรมคดีสลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 มีใจความว่า

mgr online – “ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติอุทธรณ์จำเลยในคดีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ เพียงคนเดียวคือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ และลงมติไม่อุทธรณ์จำเลยที่เหลือ คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังที่ทราบแล้วนั้น

ต่อมาคณะทำงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงได้มีมติเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ ให้ดำเนินคดีอาญาแก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เกี่ยวข้องกับการลงมติดังกล่าวอย่างถึงที่สุดต่อไป

คณะทำงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพิจารณาแล้วพบว่าประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรวมถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งเป็นกลไกสำคัญในกระบวนการยื่นคำร้องเพื่อดำเนินคดีอาญาแก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามรัฐธรรมนูญนั้น เป็นประธานฯ และสภาเผด็จการเสียงข้างเดียวที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลและคณะรัฐประหารชุดปัจจุบันซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้ด้วย ญาติวีรชนผู้เสียชีวิตและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่อาจเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามที่ประชาชนคาดหวังได้

คณะทำงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมการจัดงานบำเพ็ญกุศลและรำลึกถึงวีรชนเนื่องในโอกาสครบรอบ ๙ ปี เหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ ในวันเสาร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๖.๐๐-๑๓.๐๐ น. ณ เวทีบ้านเจ้าพระยา และในเวลา ๑๑.๐๐-๑๓.๐๐ น. จะมีงานเสวนาโดยเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันจะแสดงความคิดเห็นและร่วมกันตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะดำเนินการอย่างไรให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่วีรชน ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ ต่อไป”

นายปานเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจดำเนินการอย่างไรต่อไปจะขึ้นกับวันที่ 7 ต.ค.ที่เราจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน และการจัดงานครั้งนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่อง 9 ปี แม้ในช่วงรัฐประหาร เราก็จัดต่อเนื่อง ปี 57, 58, 59 ก็จัดมาแล้ว และชัดเจนว่า เป็นการบำเพ็ญกุศล รำลึกวีรชน เพียงแต่ครั้งนี้จะมีการกำหนดทิศทางของประชาชนเพื่อตัดสินใจแนวทางคืนความเป็นธรรม จึงไม่ได้ผิดแผกจากปีที่ผ่านมา และเป็นการจัดในพื้นที่ของเอกชน ไม่เข้าข่ายการชุมนุมในที่สาธารณะ

นายปานเทพกล่าวอีกว่า การอุทธรณ์คดีโดย ป.ป.ช.นั้นผ่านไปแล้ว ที่เหลือจึงเป็นเรื่องของประชาชนว่าจะดำเนินการอย่างไร และอยากให้วื่อมวลชนให้ความสำคัญกับการคืนความเป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพราะเหตุการณ์ผ่านมา 9 ปี มีผู้เสียชีวิต พิการ และบาดเจ็บ แต่ยังไม่มีใครรับผิดชอบแม้แต่คนเดียว ส่วนจะดำเนินการอย่างไร จะทราบหลังจากการหารือในวันที่ 7 ตุลาฯ นี้ เพราะมีหลายมาตรการที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน และจะทำอะไรต้องให้พี่น้องรับทราบที่มาที่ไป และเพื่อความรอบรอบรัดกุมโปร่งใส จึงให้พี่น้องมาแสดงความเห็นและลงมติร่วมกัน ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรหลังวันนี้ 7 จึงถือเป็นความต้องการและฉันทานุมัติของพี่น้องประชาชน

ด้านนายวีระ สมความคิด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามการดำเนินคดี ป.ป.ช.กรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ กล่าวว่า เราจะดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย การจัดงานในวันที่ 7 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ไม่ใช่การดำเนินการที่มีเป้าหมายทางการเมือง เป็นเรื่องของการติดคดี ที่เราเรียกร้องความเป็นธรรม อย่าเอาไปกล่าวหาว่าเป็นการเรียกร้องทางการเมือง เพราะฉะนั้นจะอ้างว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองไม่ได้ ทั้งนี้ หลังจากที่พันธมิตรฯ มีมติว่าจะดำเนินคดีต่อกรรมการ ป.ป.ช.โดยเร็วที่สุด แต่ปรากฏว่า ถ้าจะดำเนินคดียังมีสิ่งที่ต้องนำมาใช้อีกหลายเรื่อง หลายมาตรการ และอาจต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีแพ่ง ซึ่งต้องนำมาพูดคุยในวันที่ 7 นี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจร่วมกัน เราอยากทำให้เร็วที่สุด แต่เราเห็นว่าอายุความยังมีเหลือ เราจึงอยากจะทำให้ดีที่สุด

ด้านนายสิทธิชัย มานะเสถียร อดีตผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในงานวันที่ 7 ตุลาฯ นี้ เราจะได้ทราบถึงรายละเอียดคำวินิจฉัยขององค์คณะผู้พิพากษาศษลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองทั้งเสียงข้างน้อยและเสียงข้างมาก และการที่ ป.ป.ช.ไม่ยื่นอุทธรณ์ นายสมชาย พล.อ.ชวลิต พล.ต.อ.พัชราท แต่อุทธรณ์เพียง พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว นั้น จะถือเป็นความผิดหรือไม่ อะไรบ้าง วันที่ 7 ตุลาฯ จะพิเคราะห์ให้เห็น อยากใหไปฟังวันนั้น และจะมีกรณีตัวอย่างเปรียบเทียบให้ดู

สำนักข่าววิหคนิวส์